จากปก | มีความหวังอะไรไหมสำหรับคนตาย?
ความหวังสำหรับคนตาย—คุณจะมั่นใจในเรื่องนี้ได้อย่างไร?
เป็นเรื่องเพ้อฝันไหมที่คิดว่าคนตายจะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง? อัครสาวกเปาโลไม่คิดแบบนั้น เขาได้รับการดลใจให้เขียนว่า “ถ้าเราฝากความหวังกับพระคริสต์แค่ในชีวิตนี้ เราก็เป็นคนที่น่าสมเพชที่สุด อย่างไรก็ตาม พระคริสต์ได้ถูกปลุกให้เป็นขึ้นจากตายแล้ว และเป็นผลแรกในบรรดาคนที่ล่วงลับไป” (1 โครินท์ 15:19, 20) เปาโลเชื่อว่าการฟื้นขึ้นจากตายเป็นจริงอย่างแน่นอน และสิ่งที่รับประกันเรื่องนี้ก็คือการฟื้นขึ้นจากตายของพระเยซูนั่นเอง * (กิจการ 17:31) ด้วยเหตุผลนี้เปาโลเรียกพระเยซูว่า “ผลแรก” เพราะท่านเป็นคนแรก ที่ถูกปลุกให้มีชีวิตตลอดไป ในเมื่อพระเยซูเป็นคนแรก ตามเหตุผลแล้วก็ต้องมีคนต่อ ๆ ไปที่จะได้รับการปลุกด้วย
อีกเหตุผลหนึ่งที่จะทำให้เรามั่นใจว่าความหวังเรื่องการฟื้นขึ้นจากตายเป็นความจริงคือ พระยะโฮวาเป็นพระเจ้าแห่งความจริง และ “พระเจ้าไม่เคยโกหก” (ทิทุส 1:2, ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ) พระยะโฮวาไม่เคยโกหกและไม่มีวันที่จะทำอย่างนั้น คงเป็นเรื่องไม่มีเหตุผลแน่ ๆ ที่พระเจ้าจะให้ความหวังเรื่องการปลุกคนตายให้ฟื้น และถึงกับแสดงให้เห็นว่าพระองค์ทำได้ แต่กลับไม่ทำตามคำสัญญานั้น!
ทำไมพระยะโฮวาสัญญาว่าจะปลุกคนตายให้ฟื้นขึ้นในอนาคต? เพราะพระองค์รักเรา โยบเคยถามว่า “ถ้ามนุษย์ตายแล้ว เขาจะมีชีวิตอีกหรือ” แล้วเขาก็ตอบคำถามนั้นว่า “พระองค์จะทรงเรียก และข้าพระองค์จะทูลตอบ . . . พระองค์จะทรงอาลัยอาวรณ์ พระหัตถกิจของพระองค์” (โยบ 14:14, 15, ฉบับคิงเจมส์ ) โยบมั่นใจว่าพระยะโฮวาพ่อที่เปี่ยมด้วยความรักซึ่งอยู่ในสวรรค์ต้องการ จะปลุกเขาให้ฟื้นขึ้นจากตาย แล้วพระเจ้าจะเปลี่ยนความตั้งใจไหม? พระองค์ตอบว่า “เรายะโฮวาไม่กลับกลอก” (มาลาคี 3:6) พระเจ้ายังคงอาลัยอาวรณ์อยากให้คนที่ตายไปแล้วกลับมามีชีวิตแบบที่มีสุขภาพดีและมีความสุข ก็เหมือนกับพ่อแม่ที่รักลูกก็อยากให้ลูกที่ตายไปกลับมามีชีวิตอีก แต่ต่างกันตรงที่พระเจ้ามีอำนาจ ที่จะทำให้ความต้องการของพระองค์เป็นจริงได้—บทเพลงสรรเสริญ 135:6
ความตายเป็นปัญหาที่ใคร ๆ ก็หนีไม่พ้น แต่พระเจ้าก็เตรียมทางออกที่ดีเยี่ยมไว้
พระยะโฮวาจะมอบอำนาจให้พระเยซูลูกของพระองค์เพื่อช่วยคนที่สูญเสียคนที่เขารักให้กลับมามีความสุขอีกครั้ง แล้วพระเยซูรู้สึกอย่างไรกับความตาย? ก่อนที่จะปลุกลาซะโรให้ฟื้นขึ้นจากตาย พระเยซูสังเกตว่าพี่สาวของลาซะโรและเพื่อน ๆ ของเขาโศกเศร้าเสียใจมาก ท่านเองก็ “ร้องไห้” ด้วย (โยฮัน 11:35, ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย ) อีกครั้งหนึ่ง เมื่อพระเยซูพบกับแม่ม่ายเมืองนาอินซึ่งสูญเสียลูกชายเพียงคนเดียวของเธอ พระเยซู “รู้สึกสงสาร” ท่านพูดกับเธอว่า “หยุดร้องไห้เถิด” แล้วท่านก็ปลุกลูกชายของเธอให้ฟื้นขึ้นทันที (ลูกา 7:13) นี่แสดงให้เห็นว่าพระเยซูรู้สึกสะเทือนใจเมื่อเห็นผู้คนโศกเศร้าและตาย พระองค์จะดีใจมากขนาดไหนที่สามารถเปลี่ยนความทุกข์ของคนทั่วโลกให้กลายเป็นความสุขได้!
คุณเคยโศกเศร้าเพราะสูญเสียคนที่คุณรักไปไหม? คุณอาจรู้สึกว่าความตายเป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็หนีไม่พ้น แต่พระเจ้าก็เตรียมทางออกไว้โดยให้พระเยซูปลุกคนตายให้กลับมามีชีวิตอีก ขอจำไว้ว่าพระเจ้าต้องการให้คุณรู้ ว่ามีทางออกและพระองค์อยากให้คุณอยู่ที่นั่นและได้สวมกอดคนที่คุณรักอีกครั้ง ลองนึกภาพว่าในอนาคตคุณกับคนที่คุณรักจะอยู่และทำอะไร ๆ ด้วยกันตลอดไป โดยไม่ต้องบอกลากันอีกเลย!
ลีโอเนลที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้บอกว่า “ในที่สุดผมก็ได้รู้เรื่องการฟื้นขึ้นจากตาย ตอนแรกที่ผมได้ยิน ผมไม่เชื่อและคิดว่าคนที่มาพูดอย่างนี้เป็นพวกหลอกลวง แต่พอผมตรวจดูจากคัมภีร์ไบเบิลและพบว่าเป็นเรื่องจริง ผมก็แทบอดใจรอไม่ไหวที่จะได้เจอคุณตาของผมอีกครั้ง!”
คุณอยากรู้มากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ไหม? พยานพระยะโฮวายินดีช่วยคุณค้นดูจากคัมภีร์ไบเบิลของคุณเองว่าทำไมพวกเขาเชื่อเรื่องการปลุกให้ฟื้นขึ้นจากตายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต *
^ วรรค 3 สำหรับหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าพระเยซูถูกปลุกให้ฟื้นขึ้นจากตาย โปรดดูหนังสือคัมภีร์ไบเบิล—คำของพระเจ้าหรือของมนุษย์? (ภาษาอังกฤษ) หน้า 78-86 จัดพิมพ์โดยพยานพระยะโฮวา
^ วรรค 9 โปรดดูบท 7 ของหนังสือคัมภีร์ไบเบิลสอนอะไรจริงๆ? จัดพิมพ์โดยพยานพระยะโฮวา และ