ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ทำไมพระเยซูไม่มีส่วนร่วมในการเมือง?

ทำไมพระเยซูไม่มีส่วนร่วมในการเมือง?

ทำไม​พระ​เยซู​ไม่​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​การ​เมือง?

ขอ​ให้​นึก​ภาพ​เหตุ​การณ์​ตอน​เย็น​วัน​หนึ่ง​ใน​ปี​สากล​ศักราช 32. เวลา​นั้น​พระ​เยซู​ผู้​เป็น​มาซีฮา​ตาม​คำ​พยากรณ์​ทรง​มี​ชื่อเสียง​ใน​หมู่​ประชาชน​แล้ว​เพราะ​พระองค์​ได้​ทรง​รักษา​คน​ที่​เจ็บ​ป่วย​และ​ถึง​กับ​ปลุก​คน​ตาย​ให้​ฟื้น. วัน​นี้ พระองค์​ทรง​ทำ​ให้​ฝูง​ชน​หลาย​พัน​คน​ประทับใจ​ยิ่ง​นัก​โดย​ทำ​การ​อัศจรรย์​หลาย​อย่าง​และ​สอน​เรื่อง​ต่าง ๆ เกี่ยว​กับ​พระเจ้า. ตอน​นี้ พระองค์​บอก​ให้​ฝูง​ชน​ที่​หิว​นั่ง​รวม​กัน​เป็น​กลุ่ม ๆ. พระองค์​ทูล​อธิษฐาน​ถึง​พระ​ยะโฮวา​และ​เลี้ยง​อาหาร​พวก​เขา​ทุก​คน​โดย​การ​อัศจรรย์. หลัง​จาก​นั้น พระองค์​ทรง​เก็บ​อาหาร​ที่​เหลือ ไม่​ปล่อย​ให้​อะไร​เสีย​เปล่า. ฝูง​ชน​มี​ท่าที​อย่าง​ไร?—โยฮัน 6:1-13

เมื่อ​เห็น​การ​อัศจรรย์​ที่​พระ​เยซู​ทรง​ทำ​และ​เห็น​ว่า​พระองค์​สามารถ​ควบคุม​ฝูง​ชน​จำนวน​มาก​ได้​และ​ดู​แล​ความ​จำเป็น​ของ​พวก​เขา​ได้​เป็น​อย่าง​ดี ประชาชน​จึง​คิด​ว่า​พระ​เยซู​เหมาะ​อย่าง​ยิ่ง​ที่​จะ​เป็น​กษัตริย์. (โยฮัน 6:14) ไม่​แปลก​ที่​พวก​เขา​จะ​คิด​เช่น​นั้น. คุณ​คง​จำ​ได้​ว่า​ชาว​ยิว​ต้องการ​เหลือ​เกิน​ที่​จะ​มี​กษัตริย์​ที่​ดี​และ​มี​ความ​สามารถ อีก​ทั้ง​แผ่นดิน​เกิด​ที่​พวก​เขา​รัก​ก็​อยู่​ภาย​ใต้​การ​ปกครอง​ที่​กดขี่​ของ​มหาอำนาจ​ต่าง​ชาติ. พวก​เขา​จึง​พยายาม​กดดัน​ให้​พระ​เยซู​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​การ​เมือง. ให้​เรา​มา​ดู​ว่า​พระ​เยซู​ทรง​ทำ​อย่าง​ไร.

โยฮัน 6:15 กล่าว​ว่า “เมื่อ​พระ​เยซู​รู้​ว่า​พวก​เขา​จะ​ตั้ง​พระองค์​เป็น​กษัตริย์ พระองค์​จึง​เสด็จ​ไป​ที่​ภูเขา​อีก​ตาม​ลำพัง.” จุด​ยืน​ของ​พระ​เยซู​เห็น​ได้​ชัดเจน. พระองค์​ปฏิเสธ​อย่าง​หนักแน่น​ที่​จะ​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​การ​เมือง​ของ​แผ่นดิน​เกิด. พระองค์​ไม่​เคย​เปลี่ยน​จุด​ยืน. พระองค์​ตรัส​ว่า​ผู้​ที่​ติด​ตาม​พระองค์​ต้อง​มี​จุด​ยืน​เดียว​กับ​พระองค์. (โยฮัน 17:16) ทำไม​พระองค์​ทรง​มี​จุด​ยืน​เช่น​นั้น?

ทำไม​พระ​เยซู​ไม่​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​การ​เมือง?

การ​ที่​พระ​เยซู​ไม่​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​การ​เมือง​นั้น​เป็น​ไป​ตาม​หลักการ​ที่​เขียน​ไว้​ชัดเจน​ใน​พระ​คัมภีร์. ขอ​พิจารณา​สอง​หลักการ​ต่อ​ไป​นี้.

“มนุษย์​ใช้​อำนาจ​เหนือ​มนุษย์​อย่าง​ที่​ก่อ​ผล​เสียหาย​แก่​เขา.” (ท่าน​ผู้​ประกาศ 8:9, ล.ม.) คัมภีร์​ไบเบิล​สรุป​ไว้​เช่น​นั้น​เกี่ยว​กับ​การ​ปกครอง​ของ​มนุษย์​ตลอด​ประวัติศาสตร์. อย่า​ลืม​ว่า​พระ​เยซู​ทรง​เคย​เป็น​กาย​วิญญาณ​อยู่​ใน​สวรรค์​นาน​ก่อน​ที่​จะ​มา​เป็น​มนุษย์​บน​โลก​นี้. (โยฮัน 17:5) ดัง​นั้น พระองค์​ทรง​ทราบ​ว่า​ถึง​แม้​มนุษย์​จะ​มี​เจตนา​ดี​แต่​ก็​ไม่​สามารถ​จะ​ดู​แล​ความ​จำเป็น​ของ​ผู้​คน​นับ​ล้าน ๆ ได้​ดี​พอ และ​พระเจ้า​ก็​ไม่​ได้​สร้าง​มนุษย์​ให้​มี​ความ​สามารถ​เช่น​นั้น. (ยิระมะยา 10:23) พระ​เยซู​ทรง​ทราบ​ว่า​การ​แก้​ปัญหา​จะ​ต้อง​มา​จาก​แหล่ง​อื่น​ที่​ไม่​ใช่​รัฐบาล​ของ​มนุษย์.

“โลก​ทั้ง​โลก​อยู่​ใน​อำนาจ​ตัว​ชั่ว​ร้าย.” (1 โยฮัน 5:19) คุณ​แปลก​ใจ​ไหม​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​เช่น​นี้? หลาย​คน​รู้สึก​อย่าง​นั้น. พวก​เขา​คิด​ถึง​คน​ที่​จริง​ใจ​ซึ่ง​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​การ​เมือง​เพราะ​ต้องการ​จะ​ช่วย​ให้​โลก​มี​สภาพ​ที่​ดี​และ​ปลอด​ภัย​ขึ้น. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ไม่​ว่า​จะ​พยายาม​เช่น​ไร แม้​แต่​ผู้​นำ​ที่​จริงใจ​ที่​สุด​ก็​ไม่​สามารถ​เอา​ชนะ​อิทธิพล​ของ​ผู้​ที่​พระ​เยซู​เรียก​ว่า “ผู้​ปกครอง​โลก” ได้. (โยฮัน 12:31; 14:30) นั่น​คือ​เหตุ​ผล​ที่​พระ​เยซู​ตรัส​กับ​นัก​การ​เมือง​คน​หนึ่ง​ว่า “ราชอาณาจักร​ของ​เรา​ไม่​ได้​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​โลก​นี้.” (โยฮัน 18:36) พระ​เยซู​คือ​ผู้​ที่​จะ​เป็น​กษัตริย์​ของ​รัฐบาล​ที่​พระเจ้า​ทรง​ตั้ง​ขึ้น​ใน​สวรรค์. ถ้า​พระ​เยซู​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​การ​เมือง​ของ​โลก​นี้ ก็​แสดง​ว่า​พระองค์​ไม่​ภักดี​ต่อ​รัฐบาล​ของ​พระ​บิดา.

ถ้า​เช่น​นั้น พระ​เยซู​ทรง​สอน​ไหม​ว่า​สาวก​ของ​พระองค์​ต้อง​ไม่​ทำ​สิ่ง​ใด ๆ ที่​รัฐบาล​ของ​มนุษย์​เรียก​ร้อง? พระองค์​ไม่​ได้​ทำ​เช่น​นั้น​แต่​พระองค์​ทรง​สอน​สาวก​ให้​รู้​ว่า​พวก​เขา​มี​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​อะไร​ทั้ง​ต่อ​พระเจ้า​และ​ต่อ​รัฐบาล​มนุษย์.

พระ​เยซู​ยอม​รับ​อำนาจ​ของ​รัฐบาล

ขณะ​ที่​พระ​เยซู​กำลัง​สอน​อยู่​ใน​พระ​วิหาร พวก​ผู้​ต่อ​ต้าน​พยายาม​จับ​ผิด​คำ​พูด​ของ​พระองค์​โดย​ถาม​พระองค์​ว่า​ประชาชน​ควร​เสีย​ภาษี​หรือ​ไม่. ถ้า​พระ​เยซู​ตอบ​ว่า​ไม่ คำ​ตอบ​นั้น​ก็​จะ​ถือ​ว่า​เป็น​การ​ปลุกระดม​และ​กระตุ้น​ให้​ประชาชน​ที่​คิด​จะ​กบฏ​เพราะ​ถูก​กดขี่​ต้องการ​เป็น​อิสระ​จาก​โรม​มาก​ขึ้น. แต่​ถ้า​พระ​เยซู​ตอบ​ว่า​ควร​เสีย หลาย​คน​ก็​จะ​คิด​ว่า​พระองค์​ทรง​เห็น​ชอบ​ที่​พวก​เขา​ถูก​ปฏิบัติ​อย่าง​ไม่​เป็น​ธรรม. พระ​เยซู​ทรง​ให้​คำ​ตอบ​อย่าง​ชาญ​ฉลาด. พระองค์​ตรัส​ว่า “ของ​ของ​ซีซาร์​จง​คืน​ให้​ซีซาร์ แต่​ของ​ของ​พระเจ้า​จง​คืน​ให้​พระเจ้า.” (ลูกา 20:21-25) ดัง​นั้น สาวก​ของ​พระ​เยซู​มี​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​ทั้ง​ต่อ​พระเจ้า​และ​ต่อ​ซีซาร์​ซึ่ง​หมาย​ถึง​รัฐบาล​มนุษย์.

รัฐบาล​ต่าง ๆ ช่วย​ให้​สังคม​มี​ความ​สงบ​เรียบร้อย​ใน​ระดับ​หนึ่ง. การ​ที่​รัฐบาล​เหล่า​นั้น​เรียก​ร้อง​ให้​ประชาชน​ซื่อ​สัตย์, เสีย​ภาษี, และ​เคารพ​กฎหมาย​เป็น​เรื่อง​ที่​เหมาะ​สม. พระ​เยซู​ทรง​วาง​ตัว​อย่าง​ไว้​เช่น​ไร​ใน​การ​คืน ‘ของ​ของ​ซีซาร์​ให้​ซีซาร์’? พระ​เยซู​ถูก​เลี้ยง​ดู​โดย​บิดา​มารดา​ที่​เคารพ​กฎหมาย​แม้​แต่​ใน​สภาพการณ์​ที่​ยาก​ลำบาก. ตัว​อย่าง​เช่น เมื่อ​รัฐบาล​โรม​มี​คำ​สั่ง​ให้​ประชาชน​ไป​จด​ทะเบียน​สำมะโนครัว โยเซฟ​ได้​พา​มาเรีย​ภรรยา​ที่​กำลัง​ตั้ง​ครรภ์​เดิน​ทาง​ไกล​ราว ๆ 150 กิโลเมตร​ไป​ยัง​เบทเลเฮม. (ลูกา 2:1-5) เช่น​เดียว​กับ​บิดา​มารดา​ของ​พระองค์ พระ​เยซู​ทรง​เคารพ​กฎหมาย​บ้าน​เมือง​และ​พระองค์​ถึง​กับ​เสีย​ภาษี​ซึ่ง​ตาม​จริง​แล้ว​พระองค์​ไม่​จำเป็น​ต้อง​เสีย. (มัดธาย 17:24-27) นอก​จาก​นั้น พระองค์​ทรง​ระวัง​ไม่​เข้า​ไป​เกี่ยว​ข้อง​กับ​เรื่อง​ที่​ไม่​อยู่​ใน​ขอบ​เขต​อำนาจ​ของ​พระองค์. (ลูกา 12:13, 14) พระ​เยซู​ทรง​ให้​ความ​นับถือ​ต่อ​รัฐบาล แต่​พระองค์​ปฏิเสธ​ที่​จะ​มี​ส่วน​ใน​รัฐบาล​นั้น. แล้ว​พระ​เยซู​หมาย​ความ​ว่า​อย่าง​ไร​เมื่อ​ตรัส​ว่า “ของ​ของ​พระเจ้า​จง​คืน​ให้​พระเจ้า”?

วิธี​ที่​พระ​เยซู​คืน ‘ของ​ของ​พระเจ้า​ให้​พระเจ้า’

คราว​หนึ่ง​มี​คน​ถาม​พระ​เยซู​ว่า​ใน​บรรดา​บัญญัติ​ที่​พระเจ้า​ประทาน​แก่​มนุษย์​นั้น​ข้อ​ใด​สำคัญ​ที่​สุด. พระ​คริสต์​ตรัส​ตอบ​ว่า “ ‘จง​รัก​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ของ​เจ้า​ด้วย​สุด​หัวใจ​ของ​เจ้า ด้วย​สุด​ชีวิต​ของ​เจ้า และ​ด้วย​สุด​ความ​คิด​ของ​เจ้า.’ นี่​เป็น​บัญญัติ​ข้อ​สำคัญ​ที่​สุด​และ​เป็น​บัญญัติ​ข้อ​แรก. บัญญัติ​ข้อ​ที่​สอง​ก็​เช่น​กัน คือ ‘จง​รัก​เพื่อน​บ้าน​เหมือน​รัก​ตน​เอง.’ ” (มัดธาย 22:37-39) พระ​เยซู​ทรง​สอน​ว่า​ใน​การ​คืน ‘ของ​ของ​พระเจ้า​ให้​พระเจ้า’ นั้น สิ่ง​ที่​เรา​ต้อง​ให้​กับ​พระเจ้า​ใน​อันดับ​แรก​คือ​ความ​รัก ซึ่ง​หมาย​รวม​ถึง​ความ​จงรักภักดี​อย่าง​สุด​หัวใจ​โดย​ไม่​มี​เงื่อนไข.

เรา​จะ​แบ่ง​ความ​รัก​นี้​ให้​ใคร​หรือ​สิ่ง​ใด​อีก​ได้​ไหม? เรา​จะ​ภักดี​ต่อ​รัฐบาล​ที่​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ทรง​ตั้ง​ขึ้น​ใน​สวรรค์​และ​ขณะ​เดียว​กัน​ก็​ภักดี​ต่อ​รัฐบาล​ของ​มนุษย์​บน​โลก​นี้​ด้วย​ได้​ไหม? พระ​เยซู​ได้​ตรัส​ถึง​หลักการ​ที่​ว่า “ไม่​มี​ใคร​เป็น​ทาส​ของ​นาย​สอง​คน​ได้ เพราะ​เขา​จะ​ชัง​นาย​คน​หนึ่ง​และ​รัก​นาย​อีก​คน​หนึ่ง หรือ​ไม่​ก็​จะ​ภักดี​ต่อ​นาย​คน​หนึ่ง​และ​ดูหมิ่น​นาย​อีก​คน​หนึ่ง.” (มัดธาย 6:24) แม้​ใน​ข้อ​นี้​พระ​เยซู​ตรัส​ถึง​การ​ที่​คน​หนึ่ง​จะ​ภักดี​ทั้ง​ต่อ​พระเจ้า​และ​ต่อ​ทรัพย์​สมบัติ แต่​พระองค์​ทรง​ถือ​ว่า​หลักการ​เดียว​กัน​นี้​ใช้​ได้​กับ​การ​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​การ​เมือง​ด้วย และ​สาวก​ของ​พระองค์​ใน​ศตวรรษ​แรก​ก็​ได้​ปฏิบัติ​ตาม​หลักการ​เดียว​กัน.

บันทึก​ทาง​ประวัติศาสตร์​ที่​เก่า​แก่​ที่​สุด​ที่​มี​ใน​ปัจจุบัน​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​สาวก​ของ​พระ​เยซู​สมัย​โบราณ​ไม่​มี​ส่วน​ร่วม​ใด ๆ ใน​การ​เมือง. เนื่อง​จาก​พวก​เขา​ได้​ถวาย​ความ​เลื่อมใส​ศรัทธา​ทั้ง​สิ้น​ให้​กับ​พระเจ้า​ผู้​ซึ่ง​พระ​คริสต์​ทรง​เลื่อมใส​และ​นมัสการ พวก​เขา​จึง​ไม่​ยอม​กล่าว​คำ​ปฏิญาณ​แสดง​ความ​จงรักภักดี​ต่อ​โรม​และ​จักรพรรดิ, ไม่​เข้า​ร่วม​ใน​กองทัพ, และ​รับ​ตำแหน่ง​ใด ๆ ทาง​การ​เมือง. ผล​คือ​พวก​เขา​ถูก​เกลียด​ชัง​อย่าง​ยิ่ง. บาง​ครั้ง​พวก​ศัตรู​กล่าวหา​พวก​เขา​ว่า​เป็น​คน​ที่​เกลียด​ชัง​เพื่อน​มนุษย์. คำ​กล่าวหา​เช่น​นั้น​ถูก​ต้อง​ไหม?

คริสเตียน​แท้​รัก​เพื่อน​มนุษย์

คุณ​คง​จำ​ได้​ว่า​พระ​เยซู​ตรัส​ว่า​บัญญัติ​ที่​สำคัญ​ที่​สุด​เป็น​อันดับ​สอง​คือ “จง​รัก​เพื่อน​บ้าน​เหมือน​รัก​ตน​เอง.” ดัง​นั้น เห็น​ได้​ชัด​ว่า​สาวก​แท้​ของ​พระ​คริสต์​ไม่​ได้​เกลียด​ชัง​เพื่อน​มนุษย์. พระ​เยซู​ทรง​รัก​ประชาชน​และ​ทรง​ช่วยเหลือ​พวก​เขา​อย่าง​ไม่​รู้​จัก​เหน็ด​เหนื่อย​แม้​แต่​ใน​เรื่อง​ที่​เกี่ยว​กับ​ชีวิต​ประจำ​วัน​ของ​พวก​เขา.—มาระโก 5:25-34; โยฮัน 2:1-10

แต่​ผู้​คน​รู้​จัก​พระ​เยซู​ใน​ฐานะ​อะไร​มาก​ที่​สุด? แม้​ว่า​พระองค์​ทรง​ทำ​การ​อัศจรรย์​มาก​มาย แต่​ไม่​มี​ใคร​เรียก​พระองค์​ว่า​ผู้​รักษา​โรค, ผู้​เลี้ยง​อาหาร​คน​หลาย​พัน, หรือ​แม้​แต่​ผู้​ปลุก​คน​ตาย. ประชาชน​เรียก​พระองค์​ว่า​อาจารย์ และ​พระองค์​ก็​เป็น​เช่น​นั้น​จริง. (โยฮัน 1:38; 13:13) พระ​เยซู​ทรง​อธิบาย​ว่า​เหตุ​ผล​สำคัญ​ข้อ​หนึ่ง​ที่​พระองค์​เสด็จ​มา​ยัง​โลก​นี้​ก็​เพื่อ​สอน​ประชาชน​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า.—ลูกา 4:43

เพราะ​เหตุ​นี้​สาวก​แท้​ของ​พระ​คริสต์​จึง​อุทิศ​ตน​เพื่อ​ทำ​งาน​เดียว​กับ​ที่​นาย​ของ​พวก​เขา​เคย​ทำ​เมื่อ​อยู่​บน​แผ่นดิน​โลก คือ​สอน​ผู้​คน​เกี่ยว​กับ​ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า. คริสเตียน​แท้​ทุก​คน​ได้​รับ​มอบหมาย​จาก​พระ​เยซู​คริสต์​ให้​สอน​ผู้​คน​ทั่ว​โลก​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นี้. (มัดธาย 24:14; 28:19, 20) ราชอาณาจักร​นี้​ซึ่ง​เป็น​รัฐบาล​ใน​สวรรค์​จะ​ปกครอง​ทุก​สิ่ง​ที่​พระเจ้า​ได้​ทรง​สร้าง​และ​จะ​ปกครอง​ด้วย​ความ​รัก. รัฐบาล​นี้​จะ​ทำ​ให้​พระ​ประสงค์​ของ​พระเจ้า​สำเร็จ และ​กระทั่ง​ขจัด​ความ​ทุกข์​และ​ความ​ตาย​ให้​หมด​ไป​ด้วย. (มัดธาย 6:9, 10; วิวรณ์ 21:3, 4) จึง​ไม่​แปลก​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​เรียก​ข่าวสาร​ของ​พระ​คริสต์​ว่า “ข่าว​ดี”!—ลูกา 8:1

ดัง​นั้น หาก​คุณ​ต้องการ​รู้​ว่า​ใคร​คือ​สาวก​แท้​ของ​พระ​เยซู​คริสต์​ใน​โลก​ทุก​วัน​นี้ คุณ​จะ​รู้​ได้​อย่าง​ไร? พวก​เขา​กำลัง​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​การ​เมือง​ของ​โลก​นี้​ไหม? หรือ​ว่า​พวก​เขา​กำลัง​ทำ​งาน​สำคัญ​อย่าง​เดียว​กับ​ที่​พระ​เยซู​ทรง​เคย​ทำ​คือ​งาน​ประกาศ​และ​สอน​เกี่ยว​กับ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า?

คุณ​อยาก​รู้​มาก​ขึ้น​เกี่ยว​กับ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​และ​ประโยชน์​ที่​คุณ​จะ​ได้​รับ​จาก​ราชอาณาจักร​นี้​ใน​ปัจจุบัน​ไหม? เชิญ​คุณ​ติด​ต่อ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​ท้องถิ่น​หรือ​เข้า​ไป​เยี่ยม​ชม​เว็บไซต์ www.watchtower.org ซึ่ง​เป็น​เว็บไซต์​ทาง​การ​ของ​พวก​เขา.

[กรอบ/ภาพ​หน้า 24, 25]

พยาน​พระ​ยะโฮวา​ช่วยเหลือ​สังคม​ไหม?

พยาน​พระ​ยะโฮวา​ไม่​สนับสนุน​ฝ่าย​หนึ่ง​ฝ่าย​ใด​ใน​การ​เมือง. แต่​พวก​เขา​ช่วยเหลือ​ผู้​คน​ใน​สังคม​อย่าง​เต็ม​ที่​ไม่​ว่า​จะ​มี​เชื้อชาติ​หรือ​ภูมิหลัง​เช่น​ไร. ขอ​พิจารณา​ข้อ​เท็จ​จริง​ต่อ​ไป​นี้:

▪ พยาน​พระ​ยะโฮวา​มาก​กว่า​เจ็ด​ล้าน​คน​ทั่ว​โลก​เป็น​อาสา​สมัคร​ซึ่ง​ใช้​เวลา​มาก​กว่า 1.5 พัน​ล้าน​ชั่วโมง​ใน​แต่​ละ​ปี​เพื่อ​สอน​ผู้​คน​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​ราว​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​แสดง​ให้​ผู้​คน​เห็น​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​สามารถ​ช่วย​เขา​ให้​เลิก​นิสัย​และ​กิจ​ปฏิบัติ​ที่​ไม่​ดี, สร้าง​ครอบครัว​ที่​มี​ความ​สุข, และ​ปรับ​ปรุง​ชีวิต​ให้​ดี​ขึ้น​ได้.

▪ พวก​เขา​พิมพ์​และ​แจก​จ่าย​หนังสือ​โดย​ไม่​คิด​มูลค่า​ใน​ภาษา​ต่าง ๆ มาก​กว่า 500 ภาษา ซึ่ง​ใน​บาง​ภาษา​ไม่​มี​การ​พิมพ์​หนังสือ​ใน​ภาษา​นั้น​กัน​แล้ว.

▪ พวก​เขา​จัด​ชั้น​เรียน​เพื่อ​ฝึก​อบรม​ด้าน​การ​พูด​ใน​ที่​สาธารณะ​ซึ่ง​ช่วย​หลาย​ล้าน​คน​ให้​รู้​วิธี​พูด​อย่าง​ชัดเจน​และ​มี​ศิลปะ.

▪ พวก​เขา​ออก​เงิน​ทุน​สนับสนุน​โครงการ​ส่ง​เสริม​การ​รู้​หนังสือ​ซึ่ง​ช่วย​หลาย​หมื่น​คน​ทั่ว​โลก​ให้​อ่าน​ออก​เขียน​ได้.

▪ พวก​เขา​มี​คณะ​กรรมการ​ก่อ​สร้าง​ภูมิภาค 400 คณะ​ทั่ว​โลก​ซึ่ง​ฝึก​ทักษะ​การ​ก่อ​สร้าง​ให้​แก่​อาสา​สมัคร​ที่​ช่วย​สร้าง​ศูนย์​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ใน​ที่​ต่าง ๆ. ใน​ช่วง​สิบ​ปี​ที่​ผ่าน​มา มี​การ​สร้าง​สถาน​นมัสการ​ที่​เรียก​ว่า​หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร​มาก​กว่า 20,000 แห่ง.

▪ พวก​เขา​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​งาน​บรรเทา​ทุกข์​เมื่อ​เกิด​ภัย​พิบัติ​ใน​ที่​ต่าง ๆ ทั่ว​โลก โดย​ให้​การ​ช่วยเหลือ​แก่​ทั้ง​พยาน​พระ​ยะโฮวา​และ​ผู้​ที่​ไม่​ใช่​พยาน​ฯ. หลัง​จาก​พายุ​เฮอร์ริเคน​พัด​ถล่ม​หลาย​ส่วน​ของ​สหรัฐ​ฯ เมื่อ​ไม่​กี่​ปี​มา​นี้ อาสา​สมัคร​พยาน​ฯ ได้​ช่วย​กัน​สร้าง​หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร​มาก​กว่า 90 แห่ง​และ​บ้าน 5,500 หลัง​ขึ้น​ใหม่​ภาย​ใน​สอง​ปี.

[ภาพ​หน้า 23]

เมื่อ​ฝูง​ชน​กดดัน​พระ​เยซู​ให้​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​การ​เมือง พระองค์ ‘เสด็จ​ไป​ที่​ภูเขา​ตาม​ลำพัง’