ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

จดหมายเหตุของเรา

เขาเห็นความรักในโรงอาหาร

เขาเห็นความรักในโรงอาหาร

การได้กินเลี้ยงร่วมกันที่โต๊ะของพระยะโฮวาถือเป็นโอกาสพิเศษเสมอสำหรับประชาชนของพระเจ้า เมื่อพวกเขาประชุมร่วมกันเพื่อรับความรู้ของพระองค์ทำให้พวกเขามีความสุข และเมื่อได้กินข้าวด้วยกันก็ยิ่งทำให้มีความสุข

ในเดือนกันยายน ปี ค.ศ. 1919 นักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลจัดการประชุมใหญ่ 8 วัน ที่ซีดาร์พอยต์ รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา แม้โรงแรมจะเตรียมห้องพักและอาหารให้ตัวแทนที่มาเข้าร่วมการประชุม แต่ก็มีคนมามากกว่าที่คาดไว้หลายพันคน เมื่อพนักงานเสิร์ฟเห็นฝูงชนมากมายก็พากันลาออก ผู้จัดการห้องอาหารไม่รู้จะทำอย่างไรจึงขอความช่วยเหลือจากพี่น้องหนุ่มสาวที่มาร่วมการประชุม และหลายคนก็ยินดีช่วยเหลือ หนึ่งในนั้นคือเซดี กรีน เธอบอกว่า “เป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันได้ทำงานเสิร์ฟ ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ดีจริง ๆ”

ปี 1982 เซียร์ราลีโอน

ในปีต่อมา มีการจัดเตรียมโรงอาหารในการประชุมใหญ่ ทำให้อาสาสมัครจำนวนนับไม่ถ้วนมีความสุขที่ได้บริการพี่น้องชายหญิง การทำงานร่วมกันกับพี่น้องร่วมความเชื่อช่วยคนหนุ่มสาวหลายคนให้ตั้งเป้าหมายในงานรับใช้ด้วย เช่น แกลดิส โบลตันช่วยทำงานในโรงอาหารของการประชุมใหญ่ในปี 1937 เธอบอกว่า “ฉันได้รู้จักพี่น้องที่มาจากหลายแห่งและได้ฟังว่าพวกเขารับมือกับปัญหาส่วนตัวอย่างไร นั่นเป็นครั้งแรกที่ทำให้ฉันอยากเป็นไพโอเนียร์”

แม้งานนี้มีอุปสรรคหลายอย่าง แต่บิวลาห์ โคเวย์ ผู้เข้าร่วมการประชุมใหญ่คนหนึ่งบอกว่า “การที่พี่น้องทำงานอย่างขยันขันแข็งทำให้ทุกสิ่งดำเนินไปอย่างราบรื่น” ในปี 1969 อันเจโล มาเนรา เดินทางไปดอดเจอร์ สเตเดียม ในลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนียเพื่อเข้าร่วมประชุม แต่พอไปถึง เขาเพิ่งรู้ว่าตัวเองถูกมอบหมายให้ทำงานเป็นผู้ดูแลแผนกครัวและการทำอาหารทั้งหมด เขาบอกว่า ผมตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เพราะในการเตรียมสำหรับการประชุมใหญ่ครั้งนั้นต้องขุดร่องยาว 400 เมตรเพื่อวางท่อแก๊สสำหรับห้องครัวด้วย

ปี 1951 เมืองแฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี

ในปี 1982 ที่เซียร์ราลีโอน อาสาสมัครที่ขยันขันแข็งช่วยกันเคลียร์พื้นที่ก่อนสร้างโรงอาหารโดยใช้วัสดุที่หาได้แถว ๆ นั้น ในปี 1951 ที่แฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี พี่น้องที่มีความคิดสร้างสรรค์ได้เช่าหัวรถจักรที่ปล่อยไอน้ำเพื่อใช้ทำอาหารได้ 40 หม้อพร้อม ๆ กัน ซึ่งทำให้แจกอาหารได้ถึงชั่วโมงละ 30,000 คน และเพื่อลดงานของอาสาสมัครในแผนกล้างจานที่มี 576 คน ผู้เข้าร่วมประชุมได้นำมีดและช้อนส้อมมาเอง ในนครย่างกุ้ง ประเทศพม่า พ่อครัวคำนึงถึงตัวแทนจากต่างแดนที่มาร่วมการประชุมโดยใช้พริกน้อยกว่าปกติในการปรุงอาหาร

“พวกเขายืนกิน”

การประชุมใหญ่ที่สหรัฐในปี 1950 พี่น้องต้องยืนเข้าแถวยาวเหยียดกลางแดดร้อน ๆ เพื่อรับอาหาร แอนนี พ็อกเกนซีรู้สึกได้ประโยชน์มาก เธอเล่าว่า “ฉันรู้สึกเพลินที่ได้ฟังพี่น้องหญิงสองคนที่นั่งเรือมาจากยุโรปพูดคุยกันอย่างมีความสุข” พวกเธอเล่าเรื่องที่พระยะโฮวาช่วยให้เข้าร่วมการประชุมได้ แอนนีเล่าอีกว่า “ไม่มีใครมีความสุขมากไปกว่าพี่น้องหญิงสองคนนั้น แม้ต้องรอนานและอากาศจะร้อนแต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับพวกเธอ”

ปี 1963 กรุงโซล เกาหลี

ในการประชุมใหญ่หลายแห่ง มีการใช้เต็นท์ขนาดใหญ่ทำเป็นโรงอาหารและมีโต๊ะสูงจัดไว้เป็นแถว ซึ่งทำให้คนที่มากินข้าวต้องรีบกินให้เสร็จเพื่อจะมีที่ว่างให้คนอื่น แต่คนเป็นพัน ๆ จะกินข้าวเที่ยงกันอย่างไร? ชายคนหนึ่งที่ไม่ใช่พยานบอกว่า “ศาสนานี้แปลกมาก พวกเขายืนกินข้าวกัน”

เจ้าหน้าที่ทางทหารและพลเรือนหลายคนรู้สึกทึ่งที่เห็นว่าเราทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระเบียบเรียบร้อย หลังจากได้ตรวจสอบโรงอาหารที่เราใช้ในการประชุมที่สนามกีฬาแยงกี นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา พวกเขาก็บอกพันตรีฟาล์คเนอร์แห่งกรมสงครามอังกฤษให้ไปตรวจดูการประชุมของเราด้วย ดังนั้น ในปี 1955 พันตรีฟาล์คเนอร์กับภรรยาจึงไปยังการประชุมใหญ่ที่มีชื่อว่า “ราชอาณาจักรที่มีชัย” ในทวิกเคนแฮม ประเทศอังกฤษ เขาบอกว่าได้เห็นความรักในโรงอาหารแห่งนี้

เป็นเวลาหลายสิบปี พี่น้องที่มีความรักได้เตรียมอาหารที่มีประโยชน์แต่ไม่แพงให้กับผู้เข้าร่วมการประชุมใหญ่ แต่งานใหญ่นี้จำเป็นต้องใช้อาสาสมัครจำนวนมาก และต้องทำงานหลายชั่วโมงทำให้พวกเขาต้องขาดการประชุมบางรายการหรือทั้งหมด ดังนั้น ตั้งแต่ปี 1970 การประชุมหลายแห่งได้จัดเตรียมอาหารแบบง่าย ๆ และในปี 1995 มีการขอให้ผู้เข้าร่วมการประชุมนำอาหารมาเอง จึงทำให้คนที่เคยช่วยในแผนกนี้ได้ประโยชน์จากการประชุมและการพูดคุยกับพี่น้อง *

พระยะโฮวารักและสนใจคนที่ทำงานหนักเพื่อรับใช้พี่น้องร่วมความเชื่อ แม้ช่วงเวลาแห่งความสุขที่ได้ทำงานในโรงอาหารจะผ่านไปแล้ว แต่การประชุมใหญ่ของเราก็ยังคงมีความรักเป็นส่วนประกอบหลักอยู่เสมอ—โย. 13:34, 35

^ วรรค 12 ยังมีอีกหลายโอกาสที่อาสาสมัครจะช่วยแผนกอื่น ๆ ในการประชุมใหญ่