ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

เขตงานมิชชันนารีกลายเป็นบ้านของเรา

เขตงานมิชชันนารีกลายเป็นบ้านของเรา

เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง

เขต​งาน​มิชชันนารี​กลาย​เป็น​บ้าน​ของ​เรา

เล่า​โดย​ดิก วอลดรัน

วัน​นั้น​เป็น​บ่าย​วัน​อาทิตย์​ใน​เดือน​กันยายน 1953. เรา​เพิ่ง​เดิน​ทาง​มา​ถึง​ประเทศ​แอฟริกา​ตะวัน​ตก​เฉียง​ใต้ (นามิเบีย​ใน​ปัจจุบัน) ได้​ไม่​กี่​วัน. เรา​เข้า​ประเทศ​นี้​ยัง​ไม่​ครบ​หนึ่ง​สัปดาห์​และ​กำลัง​จะ​จัด​การ​ประชุม​สาธารณะ​ใน​วินด์ฮุก เมือง​หลวง​ของ​ประเทศ. อะไร​ได้​ดล​ใจ​เรา​ให้​เดิน​ทาง​จาก​ออสเตรเลีย​มา​ยัง​ดินแดน​ใน​แอฟริกา​แห่ง​นี้? ผม​และ​ภรรยา​พร้อม​กับ​สตรี​สาว​สาม​คน​มา​ที่​นี่​ใน​ฐานะ​มิชชันนารี​เผยแพร่​ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า.—มัดธาย 24:14.

ชีวิต​ผม​เริ่ม​ต้น​ใน​ถิ่น​ไกล​โพ้น คือ​ออสเตรเลีย ใน​ปี 1914 ซึ่ง​มี​ความ​สำคัญ​ยิ่ง. ชีวิต​วัยรุ่น​ของ​ผม​อยู่​ใน​ช่วง​ภาวะ​เศรษฐกิจ​ตก​ต่ำ​ครั้ง​ใหญ่ และ​ผม​จำเป็น​ต้อง​มี​ส่วน​ช่วย​ทำ​มา​หา​กิน​เลี้ยง​ครอบครัว. ตอน​นั้น​ไม่​มี​การ​ว่า​จ้าง แต่​ผม​หา​ช่อง​ทาง​ได้​โดย​ออก​ล่า​กระต่าย​ป่า​ซึ่ง​มี​ชุกชุม​ใน​ออสเตรเลีย. โดย​วิธี​นี้ เนื้อ​กระต่าย​จึง​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ที่​ผม​จุนเจือ​อาหาร​แก่​ครอบครัว​อย่าง​สม่ำเสมอ.

ตอน​เกิด​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่​สอง​เมื่อ​ปี 1939 ผม​หา​งาน​ได้​โดย​ทำ​กับ​บริษัท​เดิน​รถ​ราง​และ​รถ​ประจำ​ทาง​ใน​นคร​เมลเบิร์น. มี​พนักงาน​ประมาณ 700 คน ผลัด​เปลี่ยน​กัน​ทำ​งาน​บน​รถ​ประจำ​ทาง และ​ทุก ๆ รอบ​การ​เข้า​เวร ผม​พบ​พนักงาน​ขับ​รถ​หรือ​พนักงาน​เก็บ​ค่า​โดยสาร​ไม่​ซ้ำ​หน้า​กัน. ผม​มัก​จะ​ถาม​เขา​ว่า “คุณ​นับถือ​ศาสนา​อะไร?” และ​ขอ​ให้​เขา​อธิบาย​ความ​เชื่อ​ของ​เขา. คน​ที่​ให้​คำ​ตอบ​ผม​ได้​อย่าง​น่า​พอ​ใจ​ก็​มี​แต่​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เท่า​นั้น. เขา​อธิบาย​ข่าวสาร​ที่​ยึด​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​หลัก​ใน​เรื่อง​อุทยาน​บน​แผ่นดิน​โลก ซึ่ง​ที่​นั่น​มนุษย์​ผู้​เกรง​กลัว​พระเจ้า​จะ​มี​ชีวิต​ตลอด​ไป.—บทเพลง​สรรเสริญ 37:29.

ใน​ช่วง​เวลา​นั้น แม่​ของ​ผม​ได้​ติด​ต่อ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เช่น​กัน. บ่อย​ครั้ง เมื่อ​ผม​เลิก​งาน​กะ​ดึก​กลับ​ถึง​บ้าน อาหารรอ​ผม​อยู่​แล้ว​พร้อม​กับ​วารสาร​คอนโซเลชัน (ปัจจุบัน​ชื่อ​ตื่นเถิด!) เรื่อง​ที่​ผม​อ่าน​นั้น​น่า​สนใจ. ใน​ที่​สุด ผม​ลง​ความ​เห็น​ว่า​นี่​แหละ​คือ​ศาสนา​แท้ และ​จึง​เข้า​ร่วม​สมทบ​กับ​ประชาคม​อย่าง​แข็งขัน แล้ว​รับ​บัพติสมา​ใน​เดือน​พฤษภาคม 1940.

มี​บ้าน​ไพโอเนียร์​หลัง​หนึ่ง​ใน​เมลเบิร์น พยาน​พระ​ยะโฮวา​ซึ่ง​เป็น​ผู้​เผยแพร่​เต็ม​เวลา​ประมาณ 25 คน​อาศัย​อยู่​ที่​นั่น​ด้วย​กัน. ผม​เอง​ก็​ย้าย​เข้า​ไป​อยู่​กับ​พวก​เขา. วัน​แล้ว​วัน​เล่า​ผม​ได้​ฟัง​เขา​เล่า​ประสบการณ์​อัน​น่า​ตื่นเต้น​ที่​เขา​พาน​พบ​ขณะ​ทำ​งาน​เผยแพร่ และ​ความ​ปรารถนา​อยาก​เป็น​ไพโอเนียร์​ค่อย ๆ ก่อ​ตัว​ขึ้น​ใน​หัวใจ​ผม. ผล​ที่​สุด ผม​จึง​สมัคร​เป็น​ไพโอเนียร์. ผม​ได้​การ​ตอบรับ​และ​ถูก​เรียก​ไป​ปฏิบัติ​งาน​ใน​สำนักงาน​สาขา​แห่ง​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​ออสเตรเลีย. ดัง​นั้น ผม​จึง​กลาย​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​ครอบครัว​เบเธล.

การ​จำ​คุก​และ​การ​ประกาศ​ห้าม

หน้า​ที่​มอบหมาย​อย่าง​หนึ่ง​ของ​ผม​ที่​เบเธล​คือ​ทำ​งาน​ใน​โรง​เลื่อย. ที่​นั่น เรา​ตัด​ไม้​เผา​ถ่าน​ผลิต​เชื้อเพลิง. ทั้ง​นี้ เพื่อ​นำ​ไป​ใช้​กับ​ยาน​พาหนะ​ที่​สำนักงาน​สาขา เนื่อง​จาก​อยู่​ใน​ภาวะ​สงคราม น้ำมัน​เบนซิน​ขาด​แคลน. พวก​เรา 12 คน​ทำ​งาน​ใน​โรง​เลื่อย ทุก​คน​ถูก​หมาย​เกณฑ์​ให้​เข้า​ประจำการ​ใน​กองทัพ. จาก​นั้น​ไม่​นาน พวก​เรา​ถูก​ตัดสิน​จำ​คุก​หก​เดือน เพราะ​พวก​เรา​ปฏิเสธ​การ​เป็น​ทหาร​ตาม​หลักการ​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล. (ยะซายา 2:4) เขา​ส่ง​เรา​ไป​ที่​ฟาร์ม​ของ​เรือน​จำ​อัน​เป็น​ค่าย​แรงงาน. ที่​นั่น​เขา​ให้​เรา​ทำ​งาน​อะไร? แปลก​จริง ๆ เรา​ต้อง​ทำ​งาน​ตัด​ไม้ งาน​ประเภท​เดียว​กัน​ที่​เรา​ถูก​ฝึก​ให้​ทำ​ใน​เบเธล!

พวก​เรา​ตัด​ไม้​อย่าง​ช่ำชอง​และ​ทำ​ได้​ดี​มาก​จน​ผู้​บัญชา​การ​เรือน​จำ​อนุญาต​ให้​เรา​มี​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​สรรพหนังสือ​เกี่ยว​กับ​พระ​คัมภีร์ ทั้ง ๆ ที่​มี​กฎ​ระเบียบ​เข้มงวด​ห้าม​เรา​มี​สิ่ง​เหล่า​นี้. ใน​ช่วง​นี้​เอง ผม​ได้​รับ​บทเรียน​อัน​เป็น​คุณประโยชน์​ว่า​ด้วย​เรื่อง​มนุษยสัมพันธ์. ตอน​ที่​ผม​ทำ​งาน​ใน​เบเธล ผม​เข้า​กับ​บราเดอร์​คน​หนึ่ง​ไม่​ได้​เลย. อุปนิสัย​ของ​เรา​ต่าง​กัน​ลิบ. คุณ​คิด​ว่า​ทาง​เรือน​จำ​ได้​จัด​ใคร​อยู่​ห้อง​ขัง​เดียว​กัน​กับ​ผม? ไม่​ใช่​ใคร​อื่น บราเดอร์​คน​นี้​แหละ. มา​บัด​นี้ เรา​มี​โอกาส​ได้​รู้​จัก​กัน​มาก​ขึ้น และ​ผล​ก็​คือ เรา​กลาย​เป็น​เพื่อน​สนิท​และ​คง​ไว้​ซึ่ง​มิตรภาพ​อัน​ยาว​นาน.

ต่อ​มา มี​คำ​สั่ง​ห้าม​งาน​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​ออสเตรเลีย. เงิน​กองทุน​ทั้ง​หมด​ถูก​ยึด​และ​สมาชิก​เบเธล​ไม่​ค่อย​มี​เงิน​ใช้. คราว​หนึ่ง หนึ่ง​ใน​กลุ่ม​พี่​น้อง​เหล่า​นี้​เข้า​มา​หา​ผม​พูด​ว่า “ดิก ผม​อยาก​เข้า​ไป​ทำ​งาน​เผยแพร่​ใน​เมือง แต่​ไม่​มี​รอง​เท้า​ใส่ มี​แค่​รอง​เท้า​บูต​ใส่​ทำ​งาน.” ผม​ดีใจ​ที่​ได้​ช่วย​สงเคราะห์​เขา และ​เขา​ได้​รอง​เท้า​ผม​ใส่​เข้า​ไป​ใน​เมือง.

ใน​เวลา​ต่อ​มา เรา​ได้​ข่าว​เขา​ถูก​จับ​ขัง​คุก​เพราะ​ออก​ไป​เผยแพร่. ผม​อด​ใจ​ไม่​ได้​ที่​จะ​เขียน​ข้อ​ความ​สั้น ๆ ถึง​เขา​ว่า “ผม​เสียใจ​ใน​เหตุ​การณ์​ที่​เกิด​ขึ้น​กับ​คุณ. ดี​นะ​ที่​ผม​ไม่​ได้​เป็น​คน​ใส่​รอง​เท้า​คู่​นั้น.” แต่​ไม่​นาน​เท่า​ใด​ผม​ก็​ถูก​จับ​และ​ถูก​จำ​คุก​เป็น​หน​ที่​สอง​เนื่อง​จาก​การ​ยืนหยัด​รักษา​ความ​เป็น​กลาง. หลัง​จาก​ถูก​ปล่อย​ตัว ผม​ได้​รับ​หน้า​ที่​มอบหมาย​ให้​ดู​แล​ฟาร์ม​ซึ่ง​ผลิต​อาหาร​ส่ง​ให้​ครอบครัว​เบเธล. ตอน​นั้น พวก​เรา​ชนะ​คดีความ​ตาม​การ​ตัดสิน​ของ​ศาล และ​เป็น​อัน​ว่า​การ​สั่ง​ห้าม​กิจกรรม​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ถูก​ยก​เลิก.

สมรส​กับ​ผู้​เผยแพร่​ข่าว​ดี​ที่​มี​ใจ​แรง​กล้า

ระหว่าง​ทำ​งาน​ที่​ฟาร์ม ผม​เริ่ม​ตรึกตรอง​เรื่อง​ชีวิต​สมรส​อย่าง​จริงจัง​และ​เกิด​ต้อง​ใจ​ไพโอเนียร์​สาว​ชื่อ​โคราลี โคลเกน. คุณ​ยาย​ของ​โคราลี​เป็น​คน​แรก​ใน​ครอบครัว​ที่​แสดง​ความ​สนใจ​ข่าวสาร​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล. ก่อน​สิ้น​ใจ คุณ​ยาย​ได้​สั่ง​เสีย​วีรา คุณ​แม่​ของ​โคราลี​ว่า “อบรม​เลี้ยง​ดู​ลูก ๆ ให้​รัก​และ​ปฏิบัติ​พระเจ้า​นะ และ​วัน​หนึ่ง​เรา​จะ​พบ​กัน​ใน​โลก​ที่​เป็น​อุทยาน.” ใน​เวลา​ต่อ​มา เมื่อ​ไพโอเนียร์​มา​ที่​บ้าน​วีรา​พร้อม​ด้วย​หนังสือ​เล่ม​เล็ก​ชื่อ​หลาย​ล้าน​คน​ที่​มี​ชีวิต​อยู่​ใน​เวลา​นี้​จะ​ไม่​ตาย (ภาษา​อังกฤษ) คำ​พูด​เหล่า​นั้น​จึง​เริ่ม​จะ​เป็น​ที่​เข้าใจ. หนังสือ​เล่ม​นั้น​ทำ​ให้​วีรา​เชื่อ​มั่น​ว่า​เป็น​พระ​ประสงค์​ของ​พระเจ้า​ที่​จะ​ให้​มนุษยชาติ​ดำรง​ชีวิต​บน​แผ่นดิน​โลก​ที่​เป็น​อุทยาน. (วิวรณ์ 21:4) เธอ​ได้​รับ​บัพติสมา ณ ช่วง​ต้น​ทศวรรษ 1930 และ​เป็น​ไป​ตาม​การ​สนับสนุน​ของ​แม่ เธอ​ได้​ช่วย​ลูก​สาว​สาม​คน ได้​แก่​ลูซี, จีน, และ​โคราลี​พัฒนา​ความ​รัก​ต่อ​พระเจ้า. แต่​คุณ​พ่อ​ของ​โคราลี​ต่อ​ต้าน​อย่าง​รุนแรง​ที่​คน​ใน​ครอบครัว​แสดง​ความ​สนใจ​ศาสนา​นี้ ดัง​พระ​เยซู​ทรง​เตือน​ล่วง​หน้า​ว่า​อาจ​จะ​เกิด​ขึ้น​ภาย​ใน​ครอบครัว.—มัดธาย 10:34-36.

ครอบครัว​โคลเกน​มี​พรสวรรค์​ทาง​ดนตรี ลูก​แต่​ละ​คน​สามารถ​เล่น​เครื่อง​ดนตรี​ได้. โคราลี​สี​ไวโอลิน และ​ปี 1939 เมื่อ​มี​อายุ 15 ปี เธอ​ได้​รับ​ใบ​ประกาศ​เกียรติ​คุณ​ด้าน​ดนตรี. เมื่อ​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่​สอง​ระเบิด​ขึ้น โคราลี​เริ่ม​คิด​เรื่อง​อนาคต​ของ​ตัว​เอง​อย่าง​จริงจัง. ถึง​เวลา​ที่​เธอ​ต้อง​ตัดสิน​ใจ​ว่า​เธอ​จะ​ทำ​อย่าง​ไร​กับ​ชีวิต. ทาง​หนึ่ง​ก็​มี​ความ​เป็น​ไป​ได้​ที่​จะ​ยึด​เอา​ดนตรี​เป็น​งาน​ประจำ​ชีพ. ได้​มี​ผู้​เสนอ​ให้​เธอ​เล่น​ใน​วง​เมลเบิร์น​ซิมโฟนี​ออร์เคสตรา. อีก​ทาง​หนึ่ง มี​ความ​เป็น​ไป​ได้​ที่​จะ​อุทิศ​เวลา​ให้​แก่​งาน​สำคัญ​เกี่ยว​กับ​การ​เผยแพร่​ข่าวสาร​เรื่อง​ราชอาณาจักร. ภาย​หลัง​การ​ครุ่น​คิด​พิจารณา​อย่าง​จริงจัง โคราลี​พร้อม​ด้วย​พี่​สาว​สอง​คน​จึง​ตก​ลง​ใจ​รับ​บัพติสมา​ใน​ปี 1940 และ​เตรียม​ตัว​เข้า​สู่​งาน​เผยแพร่​เต็ม​เวลา.

ไม่​นาน​หลัง​จาก​โคราลี​ตัดสิน​ใจ​จะ​ทำ​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา​เมื่อ​ได้​รับ​การ​ทาบทาม​โดย​บราเดอร์​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​มี​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​มาก​มาย คือ​ลอยด์ แบร์รี จาก​สาขา​ออสเตรเลีย​ซึ่ง​ภาย​หลัง​เขา​รับใช้​ฐานะ​สมาชิก​คณะ​กรรมการ​ปกครอง​แห่ง​พยาน​พระ​ยะโฮวา. เขา​เพิ่ง​เสร็จ​การ​บรรยาย​ใน​เมลเบิร์น และ​พูด​ชวน​โคราลี​ว่า “ผม​จะ​กลับ​ไป​เบเธล. ขึ้น​รถไฟ​กลับ​พร้อม​กัน​ไหม​ล่ะ และ​สมัคร​เข้า​เป็น​สมาชิก​เบเธล​เลย?” เธอ​ขาน​รับ​การ​เชิญ​ชวน​ด้วย​ความ​เต็ม​ใจ.

โคราลี​และ​พี่​น้อง​หญิง​คน​อื่น ๆ ที่​อยู่​ใน​บ้าน​เบเธล​มี​บทบาท​สำคัญ​ใน​การ​จัด​เตรียม​สรรพหนังสือ​เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​แก่​พวก​พี่​น้อง​ใน​ออสเตรเลีย​ตลอด​หลาย​ปี​ที่​มี​การ​สั่ง​ห้าม​เนื่อง​ด้วย​ภาวะ​สงคราม. อัน​ที่​จริง พี่​น้อง​หญิง​เหล่า​นี้​ได้​ทำ​งาน​พิมพ์​ส่วน​ใหญ่​ภาย​ใต้​การ​ดู​แล​ของ​บราเดอร์​มัลคอล์ม เวล. ใน​ช่วง​การ​สั่ง​ห้าม​นาน​กว่า​สอง​ปี​นั้น มี​การ​พิมพ์​และ​เย็บ​เล่ม​หนังสือ​โลก​ใหม่ (ภาษา​อังกฤษ) และ​หนังสือ​เด็ก​ทั้ง​หลาย (ภาษา​อังกฤษ) และ​การ​พิมพ์​วารสาร​ว็อชเทาเวอร์ ก็​ไม่​เคย​ขาด​แม้​แต่​ฉบับ​เดียว.

เพื่อ​หลบ​ตำรวจ จึง​จำเป็น​ต้อง​ย้าย​แท่น​พิมพ์​บ่อย ๆ ไม่​น้อย​กว่า 15 ครั้ง. ใน​กรณี​หนึ่ง มี​การ​พิมพ์​สรรพหนังสือ​เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล​ใน​ห้อง​ใต้​ถุน​ตึก ซึ่ง​มี​งาน​พิมพ์​อย่าง​อื่น​บัง​หน้า. เมื่อ​มี​ที​ท่า​ว่า​จะ​เกิด​อันตราย ซิสเตอร์​ประจำ​แผนก​ต้อนรับ​สามารถ​กด​กริ่ง​ส่ง​สัญญาณ​ไป​ที่​ห้อง​ใต้​ถุน​ตึก​ให้​พี่​น้อง​หญิง​ที่​นั่น​เก็บ​ซ่อน​หนังสือ​ต่าง ๆ ก่อน​ที่​คน​หนึ่ง​คน​ใด​จะ​เริ่ม​ลง​มือ​ตรวจ​ค้น.

ระหว่าง​การ​ตรวจ​ค้น​คราว​หนึ่ง พี่​น้อง​หญิง​บาง​คน​ตกใจ​สุด​ขีด​เมื่อ​พวก​เธอ​เห็น​ว่า​มี​หอสังเกตการณ์ ฉบับ​หนึ่ง​วาง​อยู่​บน​โต๊ะ​ซึ่ง​ใคร ๆ ก็​มอง​เห็น​ได้​ถนัด. พอ​ตำรวจ​เดิน​เข้า​มา เขา​ก็​วาง​กระเป๋า​ของ​เขา​ทับ​หอสังเกตการณ์ ฉบับ​นั้น แล้ว​เริ่ม​ตรวจ​ค้น. ครั้น​ไม่​พบ​สิ่ง​ใด เขา​ก็​คว้า​กระเป๋า​เดิน​ออก​ไป!

ภาย​หลัง​การ​ยก​เลิก​คำ​สั่ง​ห้าม และ​ทรัพย์​สิน​ของ​สาขา​ถูก​นำ​ส่ง​คืน​ให้​พวก​พี่​น้อง​แล้ว พี่​น้อง​หลาย​คน​ได้​รับ​การ​เสนอ​โอกาส​ที่​จะ​ออก​ไป​ยัง​เขต​งาน​ใน​ฐานะ​ไพโอเนียร์​พิเศษ. ตอน​นั้น​แหละ​ที่​โคราลี​อาสา​สมัคร​ไป​ที่​เกลนีนิส. ผม​ได้​ร่วม​งาน​กับ​เธอ​ที่​นั่น​ภาย​หลัง​การ​แต่งงาน​ของ​เรา​เมื่อ​วัน​ที่ 1 มกราคม 1948. พอ​ถึง​เวลา​ที่​เรา​ละ​จาก​เขต​งาน​มอบหมาย​นั้น​ก็​มี​ประชาคม​หนึ่ง​ที่​เจริญ​ก้าว​หน้า​ที่​นั่น.

เขต​งาน​มอบหมาย​ของ​เรา​ถัด​จาก​นั้น​คือ​ร็อก​แฮมป์ตัน แต่​เรา​หา​ที่​พัก​อาศัย​ไม่​ได้​เลย. ดัง​นั้น เรา​จึง​ตั้ง​เต็นท์​กลางแจ้ง​ใน​บริเวณ​ไร่​ของ​ผู้​สนใจ​คน​หนึ่ง. ปรากฏ​ว่า​เต็นท์​หลัง​นั้น​เป็น​บ้าน​พัก​อาศัย​ของ​เรา​นาน​ถึง​เก้า​เดือน. เรา​อาจ​อยู่​ต่อ​ได้​นาน​กว่า​นั้น ทว่า​พอ​ถึง​หน้า​ฝน พายุ​โซน​ร้อน​พัด​กระหน่ำ​เต็นท์​จน​ฉีก​ขาด​ใช้​การ​ไม่​ได้ และ​สาย​ฝน​ที่​หลั่ง​ลง​มา​ได้​พัด​พา​เอา​เต็นท์​จม​หาย​ไป​กับ​สาย​น้ำ. *

เรา​ย้าย​ไป​เขต​มอบหมาย​ต่าง​แดน

ขณะ​อยู่​ที่​ร็อก​แฮมป์ตัน เรา​ได้​รับ​เชิญ​ให้​เข้า​เรียน​รุ่น​ที่ 19 ของ​โรง​เรียน​ว็อชเทาเวอร์​ไบเบิล​แห่ง​กิเลียด เพื่อ​รับ​การ​ฝึก​อบรม​เป็น​มิชชันนารี. และ​ภาย​หลัง​จบ​หลัก​สูตร​การ​เรียน​ปี 1952 แล้ว เรา​จึง​ถูก​ส่ง​ไป​ยัง​ประเทศ​ซึ่ง​มี​ชื่อ​เรียก​ใน​สมัย​นั้น​ว่า​แอฟริกา​ตะวัน​ตก​เฉียง​ใต้.

นัก​เทศน์​นัก​บวช​แห่ง​คริสต์​ศาสนจักร​ไม่​รอ​ช้า​ที่​จะ​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​เขา​รู้สึก​อย่าง​ไร​ต่อ​งาน​เผยแพร่​ของ​เรา. ทุก​วัน​อาทิตย์​ต่อ​เนื่อง​นาน​ถึง​หก​สัปดาห์ พวก​เขา​ประกาศ​เตือน​จาก​ธรรมาสน์​ให้​สมาชิก​โบสถ์​ระวัง​พวก​เรา. เขา​สั่ง​ประชาชน​ไม่​ให้​เปิด​ประตู​ต้อนรับ​และ​อย่า​ให้​พวก​เรา​อ่าน​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​เขา​ฟัง เพราะ​พวก​เขา​จะ​สับสน. ณ เขต​งาน​ใน​ละแวก​หนึ่ง เรา​จำหน่าย​หนังสือ​ออก​ไป​หลาย​เล่ม แต่​แล้ว​ก็​มี​นัก​เทศน์​เดิน​ตาม​หลัง​เรา​จาก​บ้าน​หนึ่ง​ไป​บ้าน​หนึ่ง​เพื่อ​เก็บ​รวบ​รวม​หนังสือ​เหล่า​นั้น. วัน​หนึ่ง​เรา​มี​โอกาส​ได้​พูด​คุย​กัน​ใน​ห้อง​อ่าน​หนังสือ​ของ​นัก​เทศน์ และ​พบ​ว่า​เขา​มี​หนังสือ​ของ​เรา​กอง​เป็น​พะเนิน.

หลัง​จาก​นั้น​ไม่​นาน เจ้าหน้าที่​ประจำ​ท้องถิ่น​ก็​เริ่ม​วิตก​กังวล​กับ​กิจกรรม​ของ​เรา​เช่น​กัน. ไม่​ต้อง​สงสัย เนื่อง​จาก​การ​ยุยง​ของ​นัก​เทศน์​นัก​บวช พวก​เขา​ระแวง​ว่า​เรา​อาจ​พัวพัน​กับ​ระบอบ​คอมมิวนิสต์. ดัง​นั้น พวก​เรา​ถูก​พิมพ์​ลาย​นิ้ว​มือ และ​ประชาชน​บาง​คน​ที่​เรา​ไป​เยี่ยม​ก็​ถูก​เรียก​ตัว​ไป​สอบสวน. ทั้ง​ที่​มี​การ​ต่อ​ต้าน​ขัด​ขวาง​เช่น​นี้ จำนวน​คน​เข้า​ร่วม ณ การ​ประชุม​ต่าง ๆ ของ​เรา​ก็​ยัง​เพิ่ม​ขึ้น​เรื่อย ๆ.

นับ​ตั้ง​แต่​แรก​ที่​มา​อยู่​ที่​นี่ เรา​ได้​แสดง​ความ​ปรารถนา​อย่าง​แรง​กล้า​ที่​จะ​แพร่​ข่าวสาร​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ไป​ยัง​ประชากร​พื้นเมือง​เผ่า​โอวัมโบ, เผ่า​เฮอเรโร, และ​เผ่า​นามา. แต่​เรื่อง​นี้​ไม่​ง่าย. ย้อน​ไป​ใน​สมัย​นั้น ประเทศ​แอฟริกา​ตะวัน​ตก​เฉียง​ใต้​อยู่​ภาย​ใต้​อำนาจ​ปกครอง​ของ​รัฐบาล​แอฟริกา​ใต้​ซึ่ง​มี​นโยบาย​แบ่ง​แยก​สี​ผิว. เรา​คน​ผิว​ขาว​ไม่​ได้​รับ​อนุญาต​ให้​คำ​พยาน​ใน​บริเวณ​พื้น​ที่​อยู่​อาศัย​ของ​คน​ผิว​ดำ หาก​ไม่​ได้​รับ​อนุญาต​จาก​ทาง​การ. เรา​ติด​ต่อ​ขอ​อนุญาต​ครั้ง​แล้ว​ครั้ง​เล่า แต่​พวก​เจ้าหน้าที่​วาง​เฉย​ไม่​ยอม​อนุมัติ.

หลัง​จาก​อยู่​ใน​เขต​มอบหมาย​ต่าง​แดน​สอง​ปี เรา​ประสบ​สิ่ง​ที่​เรา​คาด​ไม่​ถึง. โคราลี​ตั้ง​ครรภ์. แล้ว​ชาร์ลอตต์​ลูก​สาว​ของ​เรา​ก็​คลอด​ใน​เดือน​ตุลาคม 1955. ถึง​แม้​เรา​ไม่​สามารถ​เป็น​มิชชันนารี​ต่อ​ไป แต่​ผม​ได้​งาน​ที่​ไม่​ต้อง​ทำ​ตลอด​วัน และ​ยัง​คง​เป็น​ไพโอเนียร์​ต่อ​ชั่ว​ระยะ​หนึ่ง.

คำ​ตอบ​สำหรับ​คำ​อธิษฐาน​ของ​เรา

ปี 1960 เรา​ประสบ​ปัญหา​อีก​ครั้ง​หนึ่ง. โคราลี​ได้​รับ​จดหมาย​แจ้ง​ว่า​แม่​ของ​เธอ​ป่วย​หนัก ซึ่ง​หาก​โคราลี​ไม่​กลับ​บ้าน เธอ​คง​จะ​ไม่​ได้​เห็น​หน้า​แม่​อีก. ดัง​นั้น​เรา​จึง​วาง​แผน​ย้าย​ออก​จาก​แอฟริกา​ตะวัน​ตก​เฉียง​ใต้​แล้ว​กลับ​ออสเตรเลีย. แล้ว​มี​เหตุ​การณ์​บาง​อย่าง​เกิด​ขึ้น. ใน​สัปดาห์​นั้น​เอง​ที่​เรา​กำหนด​จะ​ออก​เดิน​ทาง ผม​ได้​รับ​จดหมาย​จาก​เจ้าหน้าที่​ใน​ท้องถิ่น​อนุญาต​ให้​เรา​เข้า​ไป​ยัง​บริเวณ​พื้น​ที่​ที่​คน​ผิว​ดำอาศัย คือ​คาตูตูรา. ที​นี้​เรา​จะ​ทำ​อย่าง​ไร​ดี? คืน​ใบ​อนุญาต​ให้​เขา​ไป​อย่าง​นั้น​หรือ หลัง​จาก​อุตสาหะ​พยายาม​นาน​ถึง​เจ็ด​ปี​กว่า​จะ​ได้​รับ​อนุญาต? คง​ง่าย​ที่​จะ​หา​เหตุ​ผล​ว่า​คน​อื่น​ก็​คง​สามารถ​ทำ​งาน​ต่อ​จาก​ที่​เรา​เริ่ม​ต้น​ไว้. แต่​นี่​ไม่​ใช่​พระ​พร​จาก​พระ​ยะโฮวา​หรอก​หรือ​ที่​การ​อธิษฐาน​ของ​เรา​ได้​รับ​คำ​ตอบ?

ผม​ตัดสิน​ใจ​ทันที. ผม​จะ​ไม่​ไป​จาก​ประเทศ​นี้ เกรง​ว่า​ความ​เพียร​พยายาม​ของ​เรา​เพื่อ​จะ​ได้​ที่​พำนัก​ถาวร​นั้น​จะ​เสีย​ไป​เปล่า ๆ หาก​เรา​พา​กัน​กลับ​ไป​ออสเตรเลีย​หมด​ทุก​คน. วัน​รุ่ง​ขึ้น​ผม​ยก​เลิก​การ​จอง​ตั๋ว​เรือ​และ​ส่ง​โคราลี​และ​ชาร์ลอตต์​ลง​เรือ​ไป​พักผ่อน​ระยะ​ยาว​ที่​ออสเตรเลีย.

ระหว่าง​ที่​ภรรยา​และ​ลูก​สาว​ไม่​อยู่ ผม​เริ่ม​ให้​คำ​พยาน​แก่​ชาว​เมือง​ใน​บริเวณ​พื้น​ที่​อาศัย​ของ​คน​ผิว​ดำ. ปรากฏ​ว่า​มี​ผู้​คน​มาก​มาย​แสดง​ความ​สนใจ. เมื่อ​โคราลี​กับ​ชาร์ลอตต์​กลับ​มา ก็​มี​คน​จำนวน​หนึ่ง​จาก​เมือง​ของ​คน​ผิว​ดำ​ได้​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ของ​เรา.

ถึง​ตอน​นี้ ผม​มี​รถ​เก่า​คัน​หนึ่ง​ซึ่ง​ผม​สามารถ​พา​ผู้​สนใจ​มา​ยัง​การ​ประชุม. การ​ประชุม​แต่​ละ​ครั้ง​ผม​ขับ​รถ​สี่​หรือ​ห้า​เที่ยว เที่ยว​หนึ่ง ๆ รับ​ได้​เจ็ด​หรือ​แปด​คน, บาง​ที​ก็​เก้า​คน. เมื่อ​คน​สุด​ท้าย​ลง​จาก​รถ โคราลี​จะ​ถาม​ติด​ตลก​ว่า “ยัง​เหลือ​อยู่​ใต้​ที่​นั่ง​อีก​กี่​คน?”

เพื่อ​จะ​ให้​งาน​เผยแพร่​มี​ประสิทธิภาพ​มาก​ขึ้น พวก​เรา​ต้อง​มี​สรรพหนังสือ​ใน​ภาษา​ของ​ชน​พื้นเมือง. ดัง​นั้น ผม​ถือ​ว่า​เป็น​โอกาส​อัน​ดี​ยิ่ง​ที่​จะ​ดำเนิน​งาน​เพื่อ​ให้​มี​การ​แปล​แผ่น​พับ​ชีวิต​ใน​โลก​ใหม่ เป็น​ภาษา​พื้นเมือง​สี่​ภาษา ได้​แก่ ภาษา​เฮอเรโร, นามา, นดองกา, และ​กวานยามา. ผู้​แปล​เหล่า​นี้​เป็น​คน​มี​การ​ศึกษา​ซึ่ง​เรา​นำ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​กับ​เขา แต่​ผม​ต้อง​นั่ง​ทำ​งาน​ร่วม​กับ​เขา​เพื่อ​ให้​แน่​ใจ​ว่า​การ​แปล​นั้น​ถูก​ต้อง​ทุก​ประโยค. ภาษา​นามา​เป็น​ภาษา​ซึ่ง​มี​คำ​ศัพท์​จำกัด. ยก​ตัว​อย่าง ผม​พยายาม​อธิบาย​ประโยค​ที่​ว่า “เดิม​ที​อาดาม​เป็น​มนุษย์​สมบูรณ์.” ผู้​แปล​เกา​หัว​แกรก ๆ และ​บอก​ว่า​เขา​นึก​คำ “สมบูรณ์” ภาษา​นามา​ไม่​ออก. “ผม​คิด​ออก​แล้ว” เขา​พูด​ใน​ที่​สุด. “เดิม​ที​อาดาม​เป็น​เหมือน​ลูก​พีช​สุก.”

เรา​มี​ความ​สุข​ใน​เขต​มอบหมาย​ต่าง​แดน

เวลา​ผ่าน​ไป​มาก​กว่า 49 ปี​แล้ว​นับ​ตั้ง​แต่​เรา​ได้​มา​ถึง​ประเทศ​นี้ ซึ่ง​ปัจจุบัน​เรียก​ว่า​นามิเบีย. ไม่​จำเป็น​อีก​แล้ว​ที่​ต้อง​ขอ​ใบ​อนุญาต​เข้า​ชุมชน​ที่​อยู่​อาศัย​ของ​คน​ผิว​ดำ. นามิเบีย​ปกครอง​โดย​รัฐบาล​ใหม่​ซึ่ง​มี​รัฐธรรมนูญ​ที่​ไม่​มี​การ​แบ่ง​แยก​สี​ผิว. เวลา​นี้​มี​สี่​ประชาคม​ใหญ่​ใน​เมือง​วินด์ฮุก​ซึ่ง​จัด​ประชุม​กัน​ใน​หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร​ที่​สะดวก​สบาย.

บ่อย​ครั้ง​เรา​มัก​จะ​นึก​ถึง​ถ้อย​คำ​ที่​ได้​ยิน​ที่​กิเลียด​ว่า “ทำ​ให้​เขต​งาน​มอบหมาย​ใน​ต่าง​แดน​เป็น​บ้าน​ของ​คุณ.” โดย​ดู​จาก​วิธี​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ชี้​นำ​ใน​เรื่อง​ต่าง ๆ เรา​จึง​มั่น​ใจ​ได้​ว่า พระทัย​ประสงค์​ของ​พระองค์​คือ​ให้​เรา​ถือ​เอา​ถิ่น​ฐาน​ใน​ต่าง​ประเทศ​แห่ง​นี้​เป็น​บ้าน​ของ​เรา. เรา​บังเกิด​ใจ​รัก​พวก​พี่​น้อง พร้อม​กับ​ความ​หลาก​หลาย​ทาง​วัฒนธรรม​ของ​เขา​ซึ่ง​ก็​น่า​สนใจ. เรา​หัวเราะ​เริง​ร่า​กับ​เขา​เมื่อ​เขา​ปีติ​ยินดี และ​ร้องไห้​กับ​เขา​เมื่อ​เขา​มี​ความ​ทุกข์​ระทม. คน​ใหม่ ๆ บาง​คน​ที่​เรา​เคย​เอา​รถ​ไป​รับ​และ​นั่ง​เบียด​เสียด​กัน​มา​ที่​หอ​ประชุม เวลา​นี้​กลาย​เป็น​เสา​หลัก​ใน​ประชาคม​ของ​เขา. เมื่อ​เรา​มา​ถึง​ประเทศ​ที่​กว้าง​ใหญ่​ไพศาล​นี้​ใน​ปี 1953 คน​ท้องถิ่น​ที่​เผยแพร่​ข่าว​ดี​มี​ไม่​ถึง​สิบ​คน. จาก​การ​เริ่ม​ต้น​ด้วย​คน​เพียง​เล็ก​น้อย จำนวน​ผู้​เผยแพร่​เพิ่ม​ทวี​มาก​กว่า 1,200 คน. จริง​ตาม​คำ​สัญญา​ของ​พระองค์ พระ​ยะโฮวา​ทรง​อวย​พร​การ​งาน​ที่​พวก​เรา​และ​คน​อื่น ๆ ‘ได้​ปลูก​และ​รด​น้ำ​ไว้’ ให้​เจริญ​งอกงาม.—1 โกรินโธ 3:6.

เมื่อ​เรา​ย้อน​ไป​ดู​งาน​รับใช้​ตลอด​เวลา​หลาย​ปี ที​แรก​เมื่อ​อยู่​ที่​ออสเตรเลีย​และ​เวลา​นี้​อยู่​ที่​นามิเบีย ผม​กับ​โคราลี​มี​ความ​รู้สึก​อิ่ม​ใจ​พอ​ใจ​อย่าง​ลึกซึ้ง. เรา​หวัง​และ​อธิษฐาน​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จะ​ทรง​ประทาน​กำลัง​ให้​เรา​ต่อ ๆ ไป​เพื่อ​กระทำ​ตาม​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระองค์​ทั้ง​ใน​เวลา​นี้​และ​ตลอด​ไป.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 22 เรื่อง​ราว​ที่​น่า​ตื่นเต้น​ของ​ครอบครัว​วอลดรัน​ซึ่ง​พากเพียร​อด​ทน​อยู่​ใน​งาน​มอบหมาย​ที่​เต็ม​ไป​ด้วย​ความ​ยาก​ลำบาก​เช่น​นี้​ได้​อย่าง​ไร​นั้น​มี​กล่าว​ไว้​ใน​หอสังเกตการณ์ (ภาษา​อังกฤษ) ฉบับ 1 ธันวาคม 1952 หน้า 707 ถึง 708 โดย​ไม่​ได้​เอ่ย​ชื่อ​พวก​เขา.

[ภาพ​หน้า 26, 27]

การ​ย้าย​ไป​เขต​งาน​มอบหมาย​ของ​เรา​ใน​ร็อก​แฮมป์ตัน ออสเตรเลีย

[ภาพ​หน้า 27]

ณ ท่า​เรือ​ตอน​เดิน​ทาง​ไป​โรง​เรียน​กิเลียด

[ภาพ​หน้า 28]

การ​ให้​คำ​พยาน​ใน​นามิเบีย​ทำ​ให้​เรา​ชื่นชม​ยินดี​มาก