ณ โต๊ะของกัปตัน
ณ โต๊ะของกัปตัน
ผู้คนที่น่าสนใจ, อาหารที่อร่อย, และการสนทนาอันน่าเพลิดเพลินทำให้การรับประทานอาหารที่โต๊ะของกัปตันบนเรือเป็นที่น่ายินดี. แต่การสนทนาที่โต๊ะของกัปตันโรเบิร์ต จี. สมิทแห่งบริษัทเดินเรือไวต์สตาร์ เผยให้เห็นการเลี้ยงฝ่ายวิญญาณ.—ยะซายา 25:6.
ในปี 1894 โรเบิร์ต ขณะอายุ 24 ปีได้เข้ารับหน้าที่บัญชาการเดินเรือคินคลุน ดันดี ในการเดินเรือรอบโลกเป็นครั้งแรก. ต่อมาเขาได้เป็นกัปตันเรือของบริษัทไวต์สตาร์ เช่น เรือเซดริก, เรือเซวิก, และเรือรูนิก. * ระหว่างข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกจากกรุงนิวยอร์กไปเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ บนเรือเหล่านี้ลำหนึ่ง โรเบิร์ตเป็นเจ้าภาพต้อนรับชาลส์ เทซ รัสเซลล์ ที่โต๊ะของกัปตัน. การสนทนากับรัสเซลล์ได้จุดประกายความสนใจของโรเบิร์ตในข่าวสารของคัมภีร์ไบเบิล และเพื่อช่วยเขาให้เรียนรู้มากขึ้น เขายินดีรับหนังสือคู่มือการศึกษาพระคัมภีร์ หลายเล่ม.
รัสเซลล์ได้ติดต่อกับโรเบิร์ตทางจดหมายต่อไป และผลก็คือเขามีความสนใจมากขึ้นในข่าวสารของคัมภีร์ไบเบิล. โรเบิร์ตได้แบ่งปันความรู้ที่เพิ่งพบให้แก่ภรรยา. ไม่นานนักทั้งคู่ได้เข้ามาเป็นนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลที่เอาการเอางาน ซึ่งเป็นชื่อเรียกพยานพระยะโฮวาในสมัยนั้น. ต่อมาโรเบิร์ตมีสิทธิพิเศษในการเสนอคำบรรยายเกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิล. ตัวอย่างเช่น ในเมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย เขาบรรยายเรื่อง “โอสถในเมืองกิเลียด” และแสดงให้เห็นวิธีที่พระคำของพระเจ้ามีข่าวสารซึ่งเป็น “ยาถอนพิษสำหรับวิบัติทั้งสิ้นบนแผ่นดินโลก.” เมื่อกลับไปประเทศอังกฤษ ภรรยากับบุตรชายหญิงวัยเยาว์ของเขาได้ช่วยในการฉาย “ภาพยนตร์เรื่องการทรงสร้าง” โดยควบคุมเครื่องเล่นจานเสียงซึ่งบันทึกคำอธิบายของรัสเซลล์ขณะที่มีการแสดงภาพนิ่ง.
โรเบิร์ตได้ถ่ายทอดมรดกเกี่ยวกับความจริงแห่งราชอาณาจักรที่ตนได้รับให้แก่บุตร. ปัจจุบัน ห้าชั่วอายุต่อมา สมาชิกครอบครัว 18 คนง่วนอยู่กับการแบ่งปันข่าวดีแก่คนอื่น และรู้สึกขอบคุณสำหรับสิ่งที่มีการเสิร์ฟ ณ โต๊ะของกัปตัน.
โดยทางสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ และงานให้การศึกษาด้านคัมภีร์ไบเบิล พยานพระยะโฮวากำลังช่วยประชาชนทั่วโลกให้เรียนรู้ข่าวสารในคัมภีร์ไบเบิลซึ่งทำให้กัปตันสมิทสนใจ. คุณก็เช่นกันจะพบสิ่งที่ปรากฏว่าน่าสนใจจริง ๆ ณ โต๊ะของกัปตัน.
[เชิงอรรถ]
^ วรรค 3 เรือไททานิกที่สร้างขึ้นในรูปแบบเดียวกัน ซึ่งมีกัปตัน อี. เจ. สมิท (ไม่ใช่ญาติกัน) บัญชาการนั้น ประสบความหายนะในการเดินทางเที่ยวแรก.
[ภาพหน้า 8]
โรเบิร์ต จี. สมิท
[ภาพหน้า 8]
ชาลส์ ที. รัสเซลล์