ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจพยานพระยะโฮวา

สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจพยานพระยะโฮวา

สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​ผม​ประทับใจ​พยาน​พระ​ยะโฮวา

เล่า​โดย โทมัส โอรอสโก

เมื่อ​ผม​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ของ​พยาน​ฯ ครั้ง​แรก ณ หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร มี​เด็ก​ชาย​เล็ก ๆ คน​หนึ่ง​ได้​ขึ้น​บรรยาย. แม้​เขา​สูง​เกือบ​ไม่​พ้น​โต๊ะ​บรรยาย ความ​ไม่​ประหม่า​และ​ทักษะ​ของ​เขา​นั้น​น่า​ทึ่ง​มาก. ผม​รู้สึก​ประทับใจ​จริง ๆ.

ผม​เห็น​ได้​ว่า​ผู้​เข้า​ร่วม​ประชุม​ต่าง​ก็​ตั้ง​อก​ตั้งใจ​ฟัง. เนื่อง​จาก​ผม​เคย​ปฏิบัติ​หน้า​ที่​ใน​ฐานะ​ทูต​ทหาร​แห่ง​โบลิเวีย​ประจำ​สหรัฐ, ผู้​บัญชา​การ​กองทัพ, และ​ผู้​ช่วย​ส่วน​ตัว​ของ​ประธานาธิบดี ผม​จึง​ชิน​กับ​การ​ได้​รับ​ความ​นับถือ. แต่​ความ​นับถือ​ที่​เด็ก​คน​นี้​ได้​รับ​ทำ​ให้​ผม​ต้อง​หัน​มา​ตรวจ​สอบ​เป้าหมาย​ใน​ชีวิต​ของ​ผม​เสีย​ใหม่.

พ่อ​ของ​ผม​เสีย​ชีวิต​ใน​ช่วง​กลาง​ทศวรรษ 1930 ใน​สงคราม​ชาโก​ระหว่าง​ปารากวัย​กับ​โบลิเวีย. ไม่​นาน​หลัง​จาก​นั้น ผม​ถูก​ส่ง​ไป​เป็น​นัก​เรียน​ประจำ​โรง​เรียน​คาทอลิก. ผม​ร่วม​พิธี​มิสซา​ทุก​วัน​อยู่​นาน​หลาย​ปี ซึ่ง​ที่​นั่น​เรา​จะ​ร้อง​เพลง​สวด, ฟัง​การ​อ่าน​หลัก​คำ​สอน​ของ​คริสตจักร, และ​พูด​ซ้ำ​คำ​อธิษฐาน​ตาม​ที่​ได้​ท่อง​จำ. ผม​เคย​เป็น​เด็ก​ช่วย​งาน​บาทหลวง​และ​ร้อง​เพลง​ประสาน​เสียง​ด้วย. แต่​ผม​ไม่​เคย​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล; ที่​จริง ผม​ไม่​เคย​เห็น​พระ​คัมภีร์​ด้วย​ซ้ำ.

ผม​ชอบ​วัน​ศักดิ์สิทธิ์​ทาง​ศาสนา เนื่อง​จาก​วัน​เหล่า​นั้น​เป็น​เหมือน​งาน​เลี้ยง​รื่นเริง และ​ผม​ชอบ​การ​เปลี่ยน​กิจวัตร. แต่​พวก​บาทหลวง​และ​คน​อื่น ๆ ที่​สอน​ศาสนา​เป็น​คน​หยาบ​กระด้าง. พวก​เขา​ทำ​ให้​ผม​ถอย​ห่าง​แทน​ที่​จะ​ถูก​ดึงดูด​ใจ. ผม​คิด​ว่า​ผม​ไม่​ต้องการ​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ศาสนา​มาก​กว่า​นี้.

วงการ​ทหาร​ประทับใจ​ผม

วัน​หนึ่ง​ใน​ฤดู​ร้อน​ที่​มี​อากาศ​แจ่ม​ใส นาย​ทหาร​หนุ่ม​สอง​นาย​ที่​แต่ง​กาย​โก้​เก๋​ได้​มา​ที่​ทาริฮา บ้าน​เกิด​ของ​ผม. ทั้ง​สอง​มา​จาก​ลาปาซ​เมือง​หลวง​ของ​โบลิเวีย และ​อยู่​ใน​ช่วง​ลา​พัก. พวก​เขา​เดิน​ผ่าน​จัตุรัส​กลาง​เมือง​อย่าง​ผึ่ง​ผาย​และ​สง่า. ผม​ประทับใจ​กับ​ความ​สง่า​ผ่าเผย, ความ​สะอาด, ความ​ภูมิ​ฐาน​ของ​เขา. เขา​สวม​เครื่อง​แบบ​สี​เขียว ปีก​หมวก​เป็น​เงา​วับ. ตอน​นั้น​แหละ ผม​ตัดสิน​ใจ​จะ​เป็น​นาย​ทหาร. ผม​คิด​ว่า​ทหาร​คง​มี​ชีวิต​ที่​เต็ม​ไป​ด้วย​ความ​ตื่นเต้น​และ​ภารกิจ​อัน​ทรง​เกียรติ.

ปี 1949 เมื่อ​ผม​อายุ 16 ปี ผม​ถูก​รับ​เข้า​เรียน​ใน​วิทยาลัย​ทหาร​ของ​โบลิเวีย. พี่​ชาย​ไป​กับ​ผม​ด้วย​ขณะ​ที่​คน​หนุ่ม ๆ เข้า​แถว​ยาว​เหยียด​ไป​จน​ถึง​ประตู​ทาง​เข้า. เขา​แนะ​นำ​ผม​ให้​รู้​จัก​นาย​เรือ​เอก และ​ขอ​ให้​ช่วย​ดู​แล​ผม. แล้ว​พี่​ชาย​ก็​พูด​ชม​ผม. เมื่อ​พี่​ชาย​กลับ​ไป​แล้ว ผม​ก็​ได้​รับ​การ​ต้อนรับ​ตาม​ธรรมเนียม​ทหาร​เกณฑ์. ผม​ถูก​ซ้อม​จน​ลง​ไป​กอง​กับ​พื้น และ​ผม​ได้​ยิน​เสียง​พูด​ว่า “เรา​จะ​ตัดสิน​ใจ​เอง​ว่า​ใคร​ควร​ได้​รับ​คำ​ชม​ที่​นี่!” วิธี​นี้​ผม​จึง​ได้​มา​รู้​จัก​วินัย​ทหาร​และ​การ​ข่มขู่. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ผม​อด​ทน​ได้​และ​ไม่​บาดเจ็บ นอก​เสีย​จาก​ว่า​ผม​รู้สึก​เสีย​ศักดิ์ศรี.

ต่อ​มา ผม​ได้​เรียน​ยุทธวิธี​ต่าง ๆ และ​ได้​เป็น​นาย​ทหาร​ที่​ได้​รับ​ความ​นับถือ. แต่​ผม​เรียน​รู้​จาก​ประสบการณ์​ว่า​ลักษณะ​ภาย​นอก​ของ​นาย​ทหาร​ที่​ดู​สะอาด​สะอ้าน​และ​มี​เกียรติ​นั้น​อาจ​เป็น​ภาพ​ลวง​ก็​ได้.

บรรลุ​ตำแหน่ง​สูง

ตอน​ที่​ผม​เริ่ม​เป็น​ทหาร ผม​ได้​รับ​การ​ฝึก​บน​เรือ​รบ​ของ​อาร์เจนตินา​ชื่อ เคเนรัล เบลกราโน ซึ่ง​รับ​ทหาร​ประจำ​เรือ​ได้​มาก​กว่า​หนึ่ง​พัน​นาย. ก่อน​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่ 2 เรือ​ลำ​นี้​ถูก​ปล่อย​ลง​น้ำ​ที่​สหรัฐ​ใน​ชื่อ ยูเอสเอส ฟีนิกซ์ และ​ต่อ​มา​รอด​จาก​การ​โจมตี​ของ​ญี่ปุ่น​ที่​เพิร์ล ฮาร์เบอร์ ฮาวาย เมื่อ​ปี 1941.

ใน​ที่​สุด ผม​ก็​ได้​เลื่อน​ขั้น​หลาย​ครั้ง​จน​ได้​เป็น​รอง​ผู้​บัญชา​การ​กองทัพ​เรือ​โบลิเวีย ซึ่ง​ลาด​ตระเวน​ใน​น่าน​น้ำ​ที่​เป็น​เขต​แดน​ของ​โบลิเวีย. น่าน​น้ำ​เหล่า​นี้​รวม​ไป​ถึง​แม่น้ำ​สาย​ต่าง ๆ แห่ง​ลุ่ม​แม่น้ำ​แอมะซอน และ​ทะเลสาบ​ซึ่ง​อยู่​สูง​ที่​สุด​ใน​โลก​ที่​สามารถ​เดิน​เรือ​ได้ นั่น​คือ​ทะเลสาบ​ติติกากา.

ใน​เวลา​เดียว​กัน คือ​เดือน​พฤษภาคม 1980 ผม​ถูก​เลือก​ให้​เป็น​หนึ่ง​ใน​คณะ​ทูต​ทหาร​ที่​ไป​ยัง​วอชิงตัน ดี.ซี. เมือง​หลวง​ของ​สหรัฐ. นาย​ทหาร​ระดับ​สูง​หนึ่ง​นาย​ถูก​เลือก​มา​จาก​แต่​ละ​กองทัพ คือ กองทัพ​บก, กองทัพ​อากาศ, และ​กองทัพ​เรือ และ​ผม​ได้​รับ​การ​แต่ง​ตั้ง​เป็น​ผู้​ประสาน​งาน​ของ​คณะ​นั้น​เนื่อง​จาก​ผม​อาวุโส​สูง​สุด. ผม​อยู่​ใน​สหรัฐ​เกือบ​สอง​ปี​และ​ต่อ​มา​ได้​เป็น​ผู้​ช่วย​ส่วน​ตัว​ของ​ประธานาธิบดี​โบลิเวีย.

ใน​ฐานะ​ผู้​บัญชา​การ​ทหาร ผม​มี​พันธะ​ต้อง​ไป​โบสถ์​ทุก​วัน​อาทิตย์. การ​ที่​บาทหลวง​ประจำ​กองทัพ​และ​บาทหลวง​ทั่ว​ไป​มี​ส่วน​เกี่ยว​ข้อง​ใน​การ​ปฏิวัติ​และ​สงคราม​ทำ​ให้​ผม​ผิด​หวัง​กับ​ศาสนา. ผม​รู้​ว่า​ฐานะ​ของ​คริสตจักร​ที่​ให้​การ​สนับสนุน​การ​นอง​เลือด​เช่น​นั้น​เป็น​ความ​ผิด. แต่​แทน​ที่​ความ​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด​เช่น​นั้น​จะ​เป็น​เหตุ​ให้​ผม​เลิก​สนใจ​ศาสนา นั่น​ยิ่ง​ทำ​ให้​ผม​แสวง​หา​ความ​จริง​ต่อ ๆ ไป. ผม​ไม่​เคย​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล ผม​จึง​เริ่ม​หยิบ​ขึ้น​มา​เป็น​ครั้ง​คราว​และ​อ่าน​ไป​เรื่อย ๆ โดย​ไม่​มี​เป้าหมาย.

ความ​เป็น​ระเบียบ​ที่​หอ​ประชุม

ผม​แปลก​ใจ​ที่​มานูเอลา ภรรยา​ของ​ผม​เริ่ม​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​มิชชันนารี​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ชื่อ​แจเนต. ต่อ​มา มานูเอลา​เริ่ม​เข้า​ร่วม​ประชุม​ที่​สถาน​นมัสการ​ของ​พยาน​ฯ ที่​เรียก​ว่า​หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร. ผม​ไม่​รู้สึก​หนัก​ใจ​ที่​จะ​ขับ​รถ​ไป​ส่ง​เธอ​ที่​นั่น แต่​ผม​ไม่​อยาก​เข้า​ร่วม​ด้วย. ผม​เดา​เอา​ว่า​การ​ประชุม​คง​จะ​มี​เสียง​อึกทึก​เร้า​อารมณ์.

วัน​หนึ่ง​มานูเอลา​ถาม​ผม​ว่า​จะ​ยินดี​ให้​สามี​ของ​แจเนต​มา​เยี่ยม​ไหม. ที​แรก​ผม​ไม่​รับ​ข้อ​เสนอ​นั้น. จาก​นั้น ผม​คิด​ว่า​เนื่อง​จาก​ผม​ได้​รับ​การ​ฝึก​อบรม​ทาง​ศาสนา​มา​มาก ผม​คง​จะ​สามารถ​หักล้าง​คำ​พูด​ของ​เขา​ได้. เมื่อ​ผม​พบ​เอียน​เป็น​ครั้ง​แรก ผม​รู้สึก​ประทับใจ​ที​ท่า​ของ​เขา ไม่​ใช่​สิ่ง​ที่​เขา​พูด. เขา​ไม่​ได้​พยายาม​ทำ​ให้​ผม​ขายหน้า​เพราะ​เขา​ได้​รับ​การ​ฝึก​อบรม​และ​มี​ความ​รู้​ด้าน​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​อย่าง​ดี. แต่​เขา​แสดง​ความ​กรุณา​และ​นับถือ​ผม.

สัปดาห์​ต่อ​มา ผม​ตัดสิน​ใจ​ไป​ที่​หอ​ประชุม และ​ได้​ยิน​เด็ก​ชาย​ตัว​น้อย​คน​นั้น​บรรยาย​อย่าง​ที่​ผม​พูด​ไว้​ตอน​ต้น. ขณะ​ที่​ผม​ฟัง​เขา​อ่าน​และ​อธิบาย​ข้อ​คัมภีร์​จาก​หนังสือ​ยะซายา ผม​รู้​ว่า​ผม​พบ​องค์การ​ที่​โดด​เด่น​เข้า​แล้ว. มัน​เป็น​เรื่อง​ตลก เมื่อ​เป็น​เด็ก​หนุ่ม ผม​ต้องการ​เป็น​นาย​ทหาร​ที่​ได้​รับ​ความ​นับถือ แต่​ตอน​นี้​ผม​ต้องการ​เป็น​เหมือน​เด็ก​ผู้​ชาย​คน​นั้น​และ​อยาก​สอน​คัมภีร์​ไบเบิล. มัน​เหมือน​กับ​ว่า​ใจ​ผม​อ่อน​ลง​และ​ยอม​รับ​ทันที.

ครั้น​เวลา​ผ่าน​ไป ผม​ยัง​ประทับใจ​การ​ตรง​ต่อ​เวลา​ของ​พยาน​ฯ และ​ที่​พวก​เขา​ทักทาย​ผม​อย่าง​ฉัน​มิตร​และ​ทำ​ให้​ผม​รู้สึก​สบาย​ใจ​เสมอ. การ​แต่ง​กาย​สะอาด​เรียบร้อย​ของ​พวก​เขา​ทำ​ให้​ผม​ประทับใจ​ด้วย. สิ่ง​ที่​ผม​ชอบ​เป็น​พิเศษ​ก็​คือ​การ​จัด​ประชุม​อย่าง​เป็น​ระเบียบ ถ้า​กำหนด​ไว้​ว่า​จะ​มี​การ​บรรยาย​เรื่อง​หนึ่ง ผม​ก็​จะ​ได้​ฟัง​เรื่อง​นั้น​ใน​วัน​นั้น​จริง ๆ. ผม​เห็น​ได้​ว่า​นี่​คือ​ระเบียบ​วินัย​บน​พื้น​ฐาน​ของ​ความ​รัก ไม่​ใช่​การ​ข่มขู่.

หลัง​จาก​ที่​ผม​ประชุม​ครั้ง​แรก ผม​ตอบ​ตก​ลง​จะ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​กับ​เอียน. เรา​ใช้​หนังสือ​คู่มือ​การ​ศึกษา​ท่าน​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​ได้​ตลอด​ไป​ใน​อุทยาน​บน​แผ่นดิน​โลก. * ผม​ยัง​คง​จำ​บท​ที่​สาม​ได้​ซึ่ง​มี​ภาพ​บิชอป​คน​หนึ่ง​อวย​ชัย​ให้​พร​เหล่า​ทหาร​ก่อน​การ​ออก​รบ. ผม​ไม่​สงสัย​เลย​ว่า​ภาพ​นั้น​ถูก​ต้อง​หรือ​ไม่ เนื่อง​จาก​ผม​เคย​เห็น​สิ่ง​นั้น​เกิด​ขึ้น​ด้วย​ตา​ของ​ผม​เอง. ที่​หอ​ประชุม ผม​ได้​รับ​หนังสือ​การ​หา​เหตุ​ผล​จาก​พระ​คัมภีร์ (ไม่​มี​ใน​ภาษา​ไทย). เมื่อ​ผม​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล​เกี่ยว​กับ​ความ​เป็น​กลาง ผม​รู้​ว่า​ผม​มี​อะไร​หลาย​อย่าง​ที่​ต้อง​เปลี่ยน. ผม​ตัดสิน​ใจ​จะ​ไม่​กลับ​ไป​ที่​โบสถ์​คาทอลิก​อีก และ​ผม​เริ่ม​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ที่​หอ​ประชุม​เป็น​ประจำ. นอก​จาก​นั้น ผม​ยัง​วาง​แผน​จะ​ขอ​ลา​ออก​จาก​ราชการ​ทหาร.

ก้าว​หน้า​สู่​การ​รับ​บัพติสมา

หลัง​จาก​นั้น​ไม่​กี่​สัปดาห์ ผม​ได้​ยิน​มา​ว่า​ประชาคม​จะ​ทำ​ความ​สะอาด​สนาม​กีฬา​เพื่อ​ใช้​สำหรับ​การ​ประชุม​ใหญ่​ที่​กำลัง​จะ​มี​ขึ้น. ผม​ตื่นเต้น​ที่​จะ​ได้​เข้า​ร่วม​และ​ได้​ไป​ช่วย​กัน​ทำ​ความ​สะอาด​สถาน​ที่. ผม​ทำ​งาน​ร่วม​กับ​คน​อื่น ๆ เพลิดเพลิน​กับ​งาน​และ​การ​คบหา. ขณะ​ที่​ผม​กำลัง​กวาด​พื้น ชาย​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​เข้า​มา​ถาม​ว่า​ผม​เป็น​นาย​พล​เรือ​เอก​ใช่​หรือ​ไม่.

ผม​ตอบ​ว่า “ใช่​ครับ.”

เขา​ร้อง​ด้วย​ความ​ประหลาด​ใจ​ว่า “ผม​ไม่​อยาก​เชื่อ​เลย! เป็น​ถึง​นาย​พล​เรือ​เอก​แต่​ยัง​มา​กวาด​พื้น!” ไม่​มี​ใคร​เคย​เห็น​นาย​ทหาร​ระดับ​สูง​เก็บ​เศษ​กระดาษ อย่า​ว่า​แต่​การ​ทำ​ความ​สะอาด​พื้น​เลย. ชาย​คน​นั้น​เคย​เป็น​พล​ขับ​รถ​ส่วน​ตัว​ของ​ผม และ​ตอน​นี้​ได้​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​แล้ว!

การ​ร่วม​มือ​ที่​อาศัย​ความ​รัก

ระเบียบ​ของ​ทหาร​ถือ​ว่า​ตำแหน่ง​เป็น​เรื่อง​สำคัญ อัน​เป็น​แนว​คิด​ที่​ถูก​ปลูกฝัง​ไว้​ใน​ตัว​ผม. ตัว​อย่าง​เช่น ผม​จำ​ได้​ว่า​เคย​ถาม​ว่า​มี​พยาน​พระ​ยะโฮวา​บาง​คน​ที่​มี​ตำแหน่ง​หน้า​ที่​หรือ​ความ​รับผิดชอบ​สูง​กว่า​คน​อื่น​ไหม. ความ​คิด​ของ​ผม​เกี่ยว​กับ​ยศ​และ​ตำแหน่ง​ยัง​คง​ฝัง​ลึก แต่​ไม่​นาน​ก็​ได้​เปลี่ยน​ไป​อย่าง​น่า​ทึ่ง.

ช่วง​นั้น ใน​ปี 1989 ผม​ได้​ยิน​ว่า​สมาชิก​คณะ​กรรมการ​ปกครอง​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​จาก​นิวยอร์ก​มี​กำหนดการ​จะ​มา​เยือน​โบลิเวีย​และ​บรรยาย​ที่​สนาม​กีฬา. ผม​รอ​ดู​ว่า​สมาชิก “ระดับ​สูง” ของ​องค์การ​จะ​ได้​รับ​การ​ปฏิบัติ​อย่าง​ไร. ผม​คิด​ว่า​คน​ที่​มี​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​สูง​เช่น​นั้น​คง​จะ​มา​ถึง​พร้อม​กับ​การ​ต้อนรับ​อย่าง​เอิกเกริก.

พอ​เริ่ม​การ​ประชุม ก็​ไม่​มี​สัญญาณ​ใด ๆ บ่ง​ชี้​ว่า​บุคคล​พิเศษ​ได้​เดิน​ทาง​มา​ถึง และ​ผม​ก็​เริ่ม​สงสัย. ปรากฏ​ว่า​คน​ที่​นั่ง​ถัด​จาก​ผม​และ​มานูเอลา​เป็น​คู่​สมรส​ที่​สูง​อายุ. มานูเอลา​เห็น​ภรรยา​ใช้​หนังสือ​เพลง​ภาษา​อังกฤษ ระหว่าง​การ​พัก​การ​ประชุม มานูเอลา​จึง​เริ่ม​คุย​กับ​ผู้​หญิง​คน​นั้น. แต่​หลัง​จาก​นั้น​ทั้ง​คู่​ก็​ลุก​จาก​ที่​นั่ง​ไป.

เรา​สอง​คน​ประหลาด​ใจ​มาก​เมื่อ​สามี​ของ​ผู้​หญิง​คน​นั้น​เดิน​ขึ้น​เวที​เพื่อ​กล่าว​ปราศรัย​สำคัญ! ณ ตอน​นั้น​เอง ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง​ที่​ผม​ได้​เรียน​รู้​ใน​กองทัพ​เกี่ยว​กับ​ยศ, ความ​เคารพ​นับถือ, อำนาจ, และ​ตำแหน่ง​ก็​ถูก​ลบ​ล้าง​ไป​จาก​ความ​คิด​ของ​ผม. หลัง​จาก​นั้น​ผม​พูด​ว่า “นึก​ดู​สิ บราเดอร์​คน​นั้น​เป็น​ถึง​สมาชิก​คณะ​กรรมการ​ปกครอง แต่​มา​นั่ง​กับ​เรา​ใน​สนาม​กีฬา​ซึ่ง​ที่​นั่ง​ก็​ไม่​สบาย​เลย!”

ตอน​นี้​ผม​ยิ้ม​เมื่อ​คิด​ว่า​บ่อย​ครั้ง​เพียง​ไร​ที่​เอียน​พยายาม​ช่วย​ผม​เข้าใจ​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ที่​มัดธาย 23:8: “พวก​เจ้า​ทุก​คน​เป็น​พี่​น้อง​กัน.”

ประกาศ​เป็น​ครั้ง​แรก

เมื่อ​ผม​หมด​พันธะ​หน้า​ที่​ใน​กองทัพ เอียน​ชวน​ผม​ไป​ประกาศ​ตาม​บ้าน​กับ​เขา. (กิจการ 20:20) ย่าน​ที่​เรา​ไป​นั้น​เป็น​ย่าน​ที่​ผม​อยาก​เลี่ยง​มาก​ที่​สุด เพราะ​มี​แต่​บ้าน​ของ​นาย​ทหาร​ใหญ่. นาย​พล​คน​หนึ่ง​ที่​ผม​ต้องการ​เลี่ยง​เป็น​พิเศษ​ได้​ออก​มา​เปิด​ประตู. ผม​รู้สึก​ประหม่า​และ​กลัว โดย​เฉพาะ​เมื่อ​เขา​เห็น​กระเป๋า​เอกสาร​และ​คัมภีร์​ไบเบิล และ​ถาม​อย่าง​เหยียด ๆ ว่า “คุณ​เป็น​อะไร​ไป?”

หลัง​จาก​อธิษฐาน​สั้น ๆ ผม​ก็​รู้สึก​มั่น​ใจ​และ​สงบ​ใจ. นาย​พล​ผู้​นั้น​ฟัง​ผม​พูด​และ​ถึง​กับ​รับ​หนังสือ​ที่​อาศัย​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​หลัก. ประสบการณ์​นั้น​กระตุ้น​ผม​ให้​อุทิศ​ชีวิต​แด่​พระ​ยะโฮวา. ผม​ได้​รับ​บัพติสมา​ใน​น้ำ​เป็น​สัญลักษณ์​แสดง​การ​อุทิศ​ตัว​เมื่อ​วัน​ที่ 3 มกราคม 1990.

ต่อ​มา ภรรยา, ลูก​ชาย, และ​ลูก​สาว​ของ​ผม​ก็​ได้​มา​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ด้วย. ตอน​นี้​ผม​รับใช้​ใน​ฐานะ​ผู้​ปกครอง​ใน​ประชาคม​และ​เป็น​ผู้​ประกาศ​ข่าว​ดี​เต็ม​เวลา​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า. สิทธิ​พิเศษ​อัน​มี​ค่า​ที่​สุด​ที่​ผม​มี​คือ​การ​ได้​รู้​จัก​พระ​ยะโฮวา​และ​พระองค์​ทรง​รู้​จัก​ผม​ด้วย. เรื่อง​นี้​ล้ำ​ค่า​ยิ่ง​กว่า​ยศ​หรือ​ตำแหน่ง​ใด ๆ ซึ่ง​ใคร ๆ จะ​ใฝ่ฝัน​หรือ​บรรลุ​ได้. ที่​จริง ความ​เป็น​ระเบียบ​ไม่​น่า​จะ​เป็น​ลักษณะ​แข็ง​กร้าว ไม่​ผ่อนปรน แต่​ควร​จะ​แสดง​ความ​อบอุ่น​และ​ใส่​ใจ​ซึ่ง​กัน​และ​กัน. พระ​ยะโฮวา​เป็น​พระเจ้า​แห่ง​ความ​เป็น​ระเบียบ แต่​ที่​สำคัญ​กว่า พระองค์​เป็น​พระเจ้า​แห่ง​ความ​รัก.—1 โครินท์ 14:33, 40; 1 โยฮัน 4:8

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 21 จัด​พิมพ์​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา แต่​ปัจจุบัน​ไม่​พิมพ์​แล้ว.

[ภาพ​หน้า 13]

กับ​เรนาโต พี่​ชาย​ของ​ผม ปี 1950

[ภาพ​หน้า 13]

ร่วม​งาน​สังคม​กับ​นาย​ทหาร​จาก​จีน​และ​ประเทศ​อื่น ๆ