คนที่ใช้ชีวิตตามที่พลังของพระเจ้าชี้นำเป็นยังไง? ฉันจะเป็นคนที่ใช้ชีวิตตามที่พลังของพระเจ้าชี้นำโดยที่ไม่มีศาสนาได้ไหม?
คำตอบจากคัมภีร์ไบเบิล
คำว่าคนที่พลังของพระเจ้าชี้นำในฉบับแปลอื่นบางฉบับใช้คำว่าคนฝ่ายพระวิญญาณ คำนี้หมายรวมถึงอะไรบ้าง? คัมภีร์ไบเบิลมักใช้คำนี้เพื่อหมายถึงคนที่มีความต้องการอย่างเต็มที่เพื่อจะทำให้พระเจ้าพอใจ คนแบบนี้จะพยายามเรียนรู้วิธีคิดของพระเจ้า คนที่ใช้ชีวิตตามที่พลังของพระเจ้าชี้นำจะใช้ชีวิตตามมาตรฐานของพระเจ้าและทำตามการชี้นำของพลังบริสุทธิ์ a—โรม 8:5; เอเฟซัส 5:1
ในทางตรงกันข้าม คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าคนที่ไม่ได้ใช้ชีวิตตามที่พลังของพระเจ้าชี้นำจะแสดงคุณลักษณะที่แตกต่างกันอย่างมาก เช่น “คนที่คิดแบบโลกไม่ยอมรับสิ่งที่มาจากพลังของพระเจ้า” หรือคำสอนของพระเจ้า (1 โครินธ์ 2:14-16) คนที่คิดแบบโลกมักจะ “อิจฉากันและทะเลาะกัน” แทนที่จะแสดงความเอื้อเฟื้อและสร้างสันติ (1 โครินธ์ 3:1-3) คัมภีร์ไบเบิลเรียกคนที่ชอบพูดใส่ร้ายและสร้างความแตกแยกว่า “ทำตัวเหมือนสัตว์ และไม่ยอมให้พลังของพระเจ้าชี้นำ”—ยูดา 19; สุภาษิต 16:28 b
ในบทความนี้เราจะมาดูว่า
ทำไมเราถึงเป็นคนที่ใช้ชีวิตตามที่พลังของพระเจ้าชี้นำได้?
ทำไมการเป็นคนที่ใช้ชีวิตตามที่พลังของพระเจ้าชี้นำถึงสำคัญ?
ฉันจะเป็นคนที่ใช้ชีวิตตามที่พลังของพระเจ้าชี้นำได้ยังไง?
คนที่มีศาสนาจะเป็นคนที่ใช้ชีวิตตามที่พลังของพระเจ้าชี้นำโดยอัตโนมัติไหม?
ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับคนที่ใช้ชีวิตตามที่พลังของพระเจ้าชี้นำ
ทำไมเราถึงเป็นคนที่ใช้ชีวิตตามที่พลังของพระเจ้าชี้นำได้?
เนื่องจากเราถูกสร้างตามแบบพระเจ้าเราจึงสามารถเป็นคนที่ใช้ชีวิตตามที่พลังของพระองค์ชี้นำได้ (ปฐมกาล 1:27) จึงไม่แปลกที่ผู้คนส่วนใหญ่อยากรู้เกี่ยวกับสิ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติหรือสิ่งที่มองไม่เห็น
เราเกิดมาพร้อมกับความสามารถที่จะแสดงคุณลักษณะหลาย ๆ อย่างเหมือนกับพระยะโฮวาพระเจ้า c เช่น สันติสุข ความเมตตาและความไม่ลำเอียง (ยากอบ 3:17) นอกจากนั้น พระเจ้ายังให้พลังบริสุทธิ์ของพระองค์กับคนที่พยายามเชื่อฟังกฎหมายของพระองค์ด้วย—กิจการ 5:32
ทำไมการเป็นคนที่ใช้ชีวิตตามที่พลังของพระเจ้าชี้นำถึงสำคัญ?
การเป็นคนที่ใช้ชีวิตตามที่พลังของพระเจ้าชี้นำทำให้ได้ “ชีวิตและสันติสุข” (โรม 8:6) ทั้งสองอย่างนี้เป็นของขวัญที่มีค่าจากพระเจ้า
ชีวิต พระเจ้าสัญญาว่าจะให้ชีวิตตลอดไปกับคนที่ใช้ชีวิตตามที่พลังของพระเจ้าชี้นำ—ยอห์น 17:3; กาลาเทีย 6:8
สันติสุข นี่หมายถึงสันติสุขกับพระเจ้า คนที่สนใจแต่ความต้องการของร่างกายเป็นศัตรูกับพระเจ้า (โรม 8:7) นอกจากนั้น พระเจ้าให้ “สันติสุขของพระเจ้าที่เกินความเข้าใจทุกอย่าง” กับคนที่พยายามใช้ชีวิตตามที่พลังของพระเจ้าชี้นำ (ฟีลิปปี 4:6, 7) สันติสุขของพระเจ้าที่อยู่ในใจนี้จะทำให้ชีวิตของพวกเขามีความสุข—มัทธิว 5:3
ฉันจะเป็นคนที่ใช้ชีวิตตามที่พลังของพระเจ้าชี้นำได้ยังไง?
เรียนรู้และเชื่อฟังกฎหมายของพระเจ้า คุณทำแบบนี้ได้โดยอ่านคัมภีร์ไบเบิล คัมภีร์ไบเบิลบอกให้รู้ว่าพระเจ้าคิดยังไง เพราะพระเจ้าดลใจให้มนุษย์เขียน “ตามที่พลังบริสุทธิ์ของพระองค์ชี้นำ” (2 เปโตร 1:21) คุณจะรู้วิธีที่จะนมัสการพระเจ้าโดย “ให้พลังของพระเจ้าชี้นำและนมัสการอย่างที่สอดคล้องกับความจริง”—ยอห์น 4:24
อธิษฐานขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า (ลูกา 11:13) พระเจ้าจะช่วยคุณให้แสดงคุณลักษณะของคนที่ใช้ชีวิตตามที่พลังของพระเจ้าชี้นำ (กาลาเทีย 5:22, 23) การอธิษฐานยังช่วยคุณให้ได้รับสติปัญญาเพื่อรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตได้—ยากอบ 1:5
คบหากับคนที่ใช้ชีวิตตามที่พลังของพระเจ้าชี้นำ พวกเขาจะช่วยคุณให้ใกล้ชิดพระเจ้ามากขึ้น (โรม 1:11, 12) ในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณคบหากับคนที่คิดแบบโลกหรือคนที่คิดไม่เหมือนพระเจ้า อาจทำให้คุณสูญเสียความสัมพันธ์ที่ดีกับพระเจ้าได้—ยากอบ 4:4
คนที่มีศาสนาจะเป็นคนที่ใช้ชีวิตตามที่พลังของพระเจ้าชี้นำโดยอัตโนมัติไหม?
การมีศาสนาไม่ได้แปลว่าคุณจะเป็นคนที่ใช้ชีวิตตามที่พลังของพระเจ้าชี้นำ คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “ถ้าใครคิดว่าเขาเป็นคนเคร่งศาสนา แต่ไม่ได้ควบคุมลิ้นของตัวเอง เขากำลังหลอกตัวเองและการนมัสการของเขาก็ไร้ประโยชน์”—ยากอบ 1:26, เชิงอรรถ
คัมภีร์ไบเบิลยังแสดงให้เห็นด้วยว่า คนที่ใช้ชีวิตตามที่พลังของพระเจ้าชี้นำจะต้องนมัสการพระเจ้าในแบบที่พระองค์ยอมรับ พวกเขายอมรับว่ามี “พลังของพระเจ้าพลังเดียว” พลังนี้กระตุ้นพวกเขาให้นมัสการพระเจ้าเหมือนเป็น “ร่างกายเดียว” ซึ่งหมายถึงคนกลุ่มหนึ่งที่ “เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันด้วยพลังของพระเจ้า และมีสันติสุขที่ผูกพันคนเราให้เป็นหนึ่งเดียว”—เอเฟซัส 4:1-4
ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับคนที่ใช้ชีวิตตามที่พลังของพระเจ้าชี้นำ
บางคนเชื่อว่า การเป็นคนฝ่ายพระวิญญาณเป็นการใช้ชีวิตแบบไหนก็ตามที่ตัวเองคิดว่าทำให้มีความสุขและพอใจกับชีวิต
ความจริงคือ คัมภีร์ไบเบิลพูดถึงการใช้ชีวิตฝ่ายพระวิญญาณว่าเป็นการใช้ชีวิตตามการชี้นำของพระเจ้า ไม่ใช่การใช้ชีวิตแบบไหนก็ได้ตามที่ตัวเองคิดว่าดี ดังนั้นคนที่ใช้ชีวิตตามฝ่ายพระวิญญาณจะมองว่าความสุขของเขาขึ้นอยู่กับการที่ได้รู้ว่าพระยะโฮวาเป็นผู้สร้างและได้ใช้ชีวิตตามความประสงค์ของพระองค์—สดุดี 100:3
บางคนเชื่อว่า คนเราจะเป็นคนฝ่ายพระวิญญาณได้โดยไม่ทำตามความต้องการของตัวเองอย่างสุดโต่งหรือถึงกับทรมานร่างกายของตัวเอง
ความจริงคือ การทรมานร่างกายของตัวเองเป็น “วิธีนมัสการที่คนคิดขึ้นเอง” (โคโลสี 2:18, 23) คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าคนที่ใช้ชีวิตตามที่พลังของพระเจ้าชี้นำหรือคนที่ใช้ชีวิตฝ่ายพระวิญญาณจะมีความสุขและไม่เจ็บปวดเลย—สุภาษิต 10:22
บางคนเชื่อว่า การเป็นคนฝ่ายพระวิญญาณเป็นการติดต่อกับวิญญาณคนตายซึ่งหมายรวมถึงผีปีศาจด้วย
ความจริงคือ ความเชื่อที่ว่าคนตายสามารถติดต่อกับคนเป็นได้เป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง เพราะคัมภีร์ไบเบิลบอกว่าคนตายแล้วไม่รู้อะไรเลย (ปัญญาจารย์ 9:5) ดังนั้น การพูดคุยกับคนตายเป็นการพูดคุยกับผีปีศาจที่ต่อต้านพระเจ้า พระเจ้าเกลียดการทำแบบนี้จึงเป็นไปไม่ได้ที่คนที่ทำแบบนี้จะเป็นคนฝ่ายพระวิญญาณ—เลวีนิติ 20:6; เฉลยธรรมบัญญัติ 18:11, 12
บางคนเชื่อว่า ทุกสิ่งที่พระเจ้าสร้างก็สามารถใช้ชีวิตตามที่พลังของพระเจ้าชี้นำได้
ความจริงคือ ทุกสิ่งที่พระเจ้าสร้างสามารถทำให้พระองค์ได้รับการยกย่องสรรเสริญได้ (สดุดี 145:10; โรม 1:20) แต่จริง ๆ แล้วมีแค่มนุษย์และทูตสวรรค์เท่านั้นที่สามารถทำตามการชี้นำของพระเจ้าได้ ส่วนสัตว์ทำสิ่งต่าง ๆ ตามสัญชาตญาณ พวกมันไม่สามารถมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าได้ (2 เปโตร 2:12) คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าความคิดและการกระทำแบบสัตว์ตรงกันข้ามกับการเป็นคนที่ใช้ชีวิตตามที่พลังของพระเจ้าชี้นำ—ยากอบ 3:15; ยูดา 19
a คำภาษาเดิมในคัมภีร์ไบเบิลที่แปลว่า “พระวิญญาณ” หรือ “พลัง” มีความหมายหลักว่า “ลมหายใจ” ซึ่งคือสิ่งที่มองไม่เห็นแต่ส่งผลกระทบที่มองเห็นได้ คัมภีร์ไบเบิลอธิบายว่าพระเจ้าเป็นองค์วิญญาณผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด คนฝ่ายพระวิญญาณจึงเป็นคนที่ได้รับการชี้นำจากพลังของพระเจ้าให้ทำตามความประสงค์ของพระองค์
b ในคัมภีร์ไบเบิล คำว่าฝ่าย “เนื้อหนัง” และฝ่าย “ร่างกาย” มักหมายถึงคนที่คิดและทำโดยอาศัยแรงกระตุ้นจากความต้องการทางด้านร่างกายโดยไม่สนใจมาตรฐานของพระเจ้า
c ยะโฮวาคือชื่อของพระเจ้า—สดุดี 83:18